About Us

หากต้องการจะมีรถสักคันนอกจากความสวยงามแล้ว ราคากับสมรรถนะของรถก็เป็นเรื่องสำคัญ

Variety of Car Brands

Variety of Car Brands

ในโลกนี้มีรถให้เลือกหลายรุ่นหลายยี่ห้อ มาจากหลายประเทศในเรื่องของราคาก็มีตั้งแต่ราคาแสนถึงราคาเป็นล้านก็มี และรถในประเทศไทยส่วนใหญ่ก็เป็นรถที่นำเข้ามาจากที่เป็นเทศญี่ปุ่น

Best Rate Guarantee

Best Rate Guarantee

สำหรับคนที่มีรถเป็นเรื่องที่จำเป็นมากที่จะต้องมีประกัน เพราะประกันจะมาช่วยในเรื่องของการเกิดอุบัติเเหตุในการซ่อมรถของเราละคู่กรณี และแบ่งเป็นหลายราคาให้เลือกตามแต่เหมาะสม

Awesome Customer Supp

Awesome Customer Supp

สนับสนุนลูกค้าหลังการขายอย่างยอดเยี่ยม ถือว่าลูกค้าคือคนสำคัญการที่จะซื้อรถสักคนในเรื่องของบริการก็เป็นเรื่องสำคัญควรจะเลือกยี่ห้อรถที่ตรงความต้องการของท่านละไม่ควรลืมเรื่องของบริการ

recommend

จะเลือกรถสักคนหนึ่งต้องดูอะไรหลายๆอย่างเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของท่านให้ได้มากที่สุด

Auto Financing Services

Auto Financing Services

สิ้นเชื่อรถยนต์ช่วยเราได้มาก หากกำลังประสบปัญหาแล้วละก็สิ้นเชื่อรถยนต์รถยนต์ดีๆช่วยท่านได้

Type of vehicle

Type of vehicle

รถมีให้เลือกใช้มากมายที่เหมาะกับการใช้งานซึ่งในก็ต้องดูถึงความต้องการของตัวคุณเองด้วยว่าต้องการมีรถไปเพื่อจุดปประสงอะไรอะไร

Speed Car

Speed Car

เลือกรถที่มีความเร็วตามความต้องการของท่านอย่างถ้าขับในจราจรติดขัดก็ความเลือกซื้อรถที่เล็กและไม่จำเป็นต้องทำความเร็วได้มากเน้นประหยัดน้ำมั้นจะดีกว่า

Spare Parts

Spare Parts

ในเรื่องของสิ้นส่วนอะไรหล่ของรถก็มีส่วนประหยัดเงินในกระเป่าของคุณได้ โดยรถที่ได้นิยมในตลาดประหาอะไหล่ได้ง่ายและราคาถูก

After-sales service

After-sales service

ให้ความสำคัญหลังการขายเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองไม่อยากรู้สึกเสียใจภายควรเลือกยี่ห้อที่มีบริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

The Price is Right

The Price is Right

แน่นอนว่าในเรื่องของราคาทุกคนต้องสนใจในเรื่องมีแต่รถที่แพงก็ไม่ได้บ่องบอกถึงว่าเยี่ยมเสมอไปต้องดูในเรื่องของภมิประเทศ และเรื่องของอากาศด้วย

Ready to start your first car?

The recommendations of the expert's car

STARTED

The Thing Of Interesting

ศึกษาข้อมูลต่างๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจที่ดีของคุณ

สุดยอดรถในดวงใจใครหลายคน none

อีหนึ่งยี่ห้อรถที่ราคาสูงอันดับต้นๆของโลก  lamborghini

Learn More
รถหรูมีระดับต้อง Mercedes Benz none

รถหรูของคนมีระดับต้อง Mercedes Benz รถสัญชาติเยอรมันที่คนไทยชื่นชอบกันเป็นอย่างมาก

Learn More
รถที่มีความเท่กับความหรูอยู่ในตัวเป็นที่หมายตา BMW none

BMW เป็นรถของเยอรมันที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยไม่น้อย เพราะเป้นรถที่แต่งสวยละคุณภาพเยี่ยม

Learn More
รถขวัญใจวัยรุ่น Mustang none

Mustang รถยอดนิยมของอเมริกาที่โด่งดังไปทั่วโลก

Learn More
Audi สุดยอกรถยุโรปที่ทั่วโลกหมายตา none

Audi รถที่ใครๆก็อยากลองรับสักครั้งนอกจากรูปลักษณ์ที่สวยงามแล้วความแรงไม่ต้องพูดถึง

Learn More

Types Of Vehicles

รถยนตร์สามารแบ่งประเภทการใช้งานได้ดังนี้

  • Truck

    Truck ก็คือรถกะบะบ้านเราที่วิ่งกันอยู่บนท้องถนนนี้ละครับ โดยบางรุ่นก็จะมีที่นั้งเสริมขึ้นมาสำหรับนั้งได้อีกสองคน

    Truck

    Truck ก็คือรถกะบะบ้านเราที่วิ่งกันอยู่บนท้องถนนนี้ละครับ โดยบางรุ่นก็จะมีที่นั้งเสริมขึ้นมาสำหรับนั้งได้อีกสองคน

    Truck ก็คือรถกะบะบ้านเราที่วิ่งกันอยู่บนท้องถนนนี้ละครับ โดยบางรุ่นก็จะมีที่นั้งเสริมขึ้นมาสำหรับนั้งได้อีกสองคน

  • SUV

    รถ SUV คือ ที่มีหน้าประตูโดยสว่นมากจะยกล้อสูงและมีล้อใหญ่ ใช้การขับเคลื่อนแบบ 4WD ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับรถกะบะสักเท่าไร

    SUV

    รถ SUV คือ ที่มีหน้าประตูโดยสว่นมากจะยกล้อสูงและมีล้อใหญ่ ใช้การขับเคลื่อนแบบ 4WD ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับรถกะบะสักเท่าไร

    รถ SUV คือ ที่มีหน้าประตูโดยสว่นมากจะยกล้อสูงและมีล้อใหญ่ ใช้การขับเคลื่อนแบบ 4WD ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับรถกะบะสักเท่าไร

  • Sedan

    ความหมายของรถซีดาน ก็คือรถบ้าน หรือ เรียกว่ารถเก๋งนี้ละครับ เป็นรถส่วนบุคคลโดยมีเครื่องยนต์อยู่ทางด้านหน้าของรถ โดยไม่แบ่งแยกว่าจะเป้นแบบสองประตูหรือสี่ประตู เรียกกว่ารถ คูเป้

    Sedan

    ความหมายของรถซีดาน ก็คือรถบ้าน หรือ เรียกว่ารถเก๋งนี้ละครับ เป็นรถส่วนบุคคลโดยมีเครื่องยนต์อยู่ทางด้านหน้าของรถ โดยไม่แบ่งแยกว่าจะเป้นแบบสองประตูหรือสี่ประตู เรียกกว่ารถ คูเป้

    ความหมายของรถซีดาน ก็คือรถบ้าน หรือ เรียกว่ารถเก๋งนี้ละครับ เป็นรถส่วนบุคคลโดยมีเครื่องยนต์อยู่ทางด้านหน้าของรถ โดยไม่แบ่งแยกว่าจะเป้นแบบสองประตูหรือสี่ประตู เรียกกว่ารถ คูเป้

Ladysaw.net

Article

ลำดับรถที่เร็วที่สุดในโลก 2019

รถยนต์เป็นพาหนะที่เราใช้สำหรับขนส่งมนุษย์มานานหลายสิบปี แต่วันนี้มันได้กลายเป็นอีกอย่างที่ยิ่งใหญ่ พวกมันกลายเป็นสิ่งที่น่าหลงใหลของผู้ชายทั้งหลาย สิ่งที่ทำให้น่าสนใจในสมัยนี้ไม่ได้มีเพียงแต่ความเท่ห์ แต่เป็นเรื่องของสมรรถนะ ความเร็ว และราคา แน่นอนว่ามหาเศรษฐีหลายคนมักจะนิยมชอบเก็บสะสมรถหรูเป็นงานอดิเรก แต่บอกไว้ก่อนว่ารถยนต์ซุปเปอร์คาร์หลัก 10 ล้าน 100 ล้านนั้น ไม่ได้มีดีแค่เอาไว้โชว์ตามงานเท่านั้น วันนี้เราจะพาไปดูรถที่เร็วที่สุดในโลกของปี 2019 ที่แพงสมกับความสามารถของตัวมันเอง HENNESSEY VENOM F5 หลายคนคิดว่ารถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกนั้นมาจากแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักระดับโลก แต่คุณจะแปลกใจเมื่อ Hennessey เป็นแบรนด์ที่สามารถผลิตรถยนต์สมรรถนะะสูงที่เร็วสุดในโลกได้อย่าง Venom F5 เป็นรุ่นที่ติดยอดพัฒนามาจาก Venom GT โดยตามทฤษฎีแล้วมันมีความเร็วสูงสุด...

รถ 4×4 ยี่ห้อไหนดีที่สุด ได้รับความนิยมมากที่สุด

ทำไมคุณถึงต้องเลือกใช้ 4x4 ถ้าคุณเป็นคนที่ขับรถไปทำงานในเมืองมันก็อาจไม่จำเป็น แต่ถ้าเป็นสายลุยขึ้นเขา ลงห้วย ขอบอกเลยว่าต้องเป็น 4x4 เท่านั้นที่จะพาคุณไปถึงฝั่งได้ พวกมันเป็นรถที่มีกำลังสูง ขับสนุก เหมาะกับการขับเที่ยวต่างจังหวัดในระยะทางไกล วันนี้เราจะพามาดูรถยนต์ที่นิยมของคนไทยมากที่สุด ไปดูกันว่าจะมีรุ่นไหนที่น่าสนใจกันบ้าง Jeep Wrangler คันนี้คงจะขาดไม่ได้ เพราะถือเป็นตำนานที่อยู่คู่กับวงการ 4x4 มานานเหลือเกิน เป็นหนึ่งในไม่กี่ SUVs จากยุคสมัยใหม่ที่ยังคงมีเพลาหน้าแข็งสำหรับความแข็งแกร่งสูงสุดในการลุยออฟโรด Jeep Wrangler เป็นรถยนต์ 2 – 4 ประตูที่ถูกออกแบบและผลิตโดยบริษัท Jeep...

ทำความรู้จักรถอเมริกันแรงม้าสูง รถคลาสสิคสวยๆ

คนที่นิยมเล่นรถคลาสสิคไม่ได้ชอบเพียงภาพลักษณ์ที่สวยงามเท่านั้น แต่ความแรงของมันนี้สิคือสิ่งที่ทุกคนหลงใหล มันถือเป็นรถต้นแบบของซูเปอร์คาร์ในสมัยใหม่ และเมื่อเราจะย้อนกลับไปดู จะต้องดูให้ถูกทีและถูกเวลา ซึ่งวันนี้เราจะพาย้อนกลับไปดูตำนานของสุดยอดรถอเมริกันที่มีแรงม้าสูงๆ แถมยังมีภาพลักษณ์ที่ดุดัน จะมีรุ่นไหนที่เคยผ่านหน้าผ่านตาเพื่อนๆกันบ้างนะ Chevrolet Chevelle SS396 เป็นรถยนต์ขนาดกลางที่ผลิตโดยเชฟโรเลต มีด้วยกันทั้งหมดสามรุ่นสำหรับปี 1964 ถึงปี 1977 Chevelle เป็นหนึ่งในชื่อที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของเชฟโรเลต โดยมีรุ่น Super Sport ผลิตขึ้นในปี 1973 และ Lagunas ตั้งแต่ปี 1973 ถึง 1976 หลังจากผ่านไป...

drag คืออะไร และความนิยมของการแข่งรถประเภทนี้ในไทยและต่างประเทศ

เมื่อพูดถึงการแข่งรถหลายคนอาจนึกถึงการแข่งที่อยู่ในสนามมีเส้นทางโค้งไปมา แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่ามีการแข่งแบบ Drag racing หรือการเล่นแดร็กอยู่ มันเป็นประเภทของการแข่งรถสำหรับ รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ด้วยการแข่งระยะสั้นเป็นเส้นตรงยาวตลอดจากจุดเริ่มต้น จนถึงเส้นชัยตามระยะทางที่กำหนด ระยะทางปกติที่ใช้ในการแขงแดร็กได้โดยทั่วไปคือ ¼ ไมล์ 1,320 ฟุต หรือ 402 เมตร และระยะทางแบบสั้นระยะ1,000 ฟุต 305 เมตร ซึ่งเป็นที่นิยมกว่าในปัจุบัน โดยการแข่งมีการใช้ระบบจับเวลาและระบบตรวจจับความเร็วแบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อบันทึกผลการแข่งขันมาตั้งแต่ปี 1960 การแข่งแบบนี้ถือว่ามีประวัติศาสตร์ยาวนานพอ ๆ กับประวัติศาสตร์ของรถยนต์ เรียกว่ามันเติบโตมาพร้อม ๆ กันเลยก็ว่าได้...

ประวัติการ แข่งขัน F1 หรือรถสูตรหนึ่ง

“แข่งรถสูตรหนึ่ง” หรือ ”ฟอร์มูล่าวัน” มีรากฐานมาจากการแข่งขันชิงแชมป์ยุโรปปี 1920 และ 1930 โดยพื้นฐานของสูตรหนึ่งก็คือกฎที่กำหนดโดย Fédération Internationale de l'Automobile (FIA) ที่เริ่มต้นใช้ในปี 1946 ซึ่งทำให้เกิดการแข่งขันชิงแชมป์โลกในปี 1950 ประวัติศาสตร์ของการแข่งชนิดนี้สอดคล้องกับวิวัฒนาการของกฎระเบียบทางเทคนิคในอดีตจนถึงปัจจุบัน นอกเหนือจากการแข่งขันชิงแชมป์โลกแล้วยังมีการแข่งขันฟอร์มูล่าวันที่ไม่ใช่แชมป์ที่ได้รับความนิยมไปทั่ว เนื่องจากครั้งสุดท้ายที่จัดขึ้นในปี 1983 เนื่องจากต้นทุนการแข่งขันที่สูงขึ้น แต่ยังคงมีการแข่งระดับประเทศอยู่ในแอฟริกาใต้และสหราชอาณาจักรในยุค 60 และยุค 70 สูตรหนึ่งถูกกำหนดขึ้นครั้งแรกโดยคณะกรรมาธิการกีฬาระหว่างประเทศ (CSI) ในปี 1946...
1 2 9

 

 

  • รถยนต์เป็นพาหนะที่เราใช้สำหรับขนส่งมนุษย์มานานหลายสิบปี แต่วันนี้มันได้กลายเป็นอีกอย่างที่ยิ่งใหญ่ พวกมันกลายเป็นสิ่งที่น่าหลงใหลของผู้ชายทั้งหลาย สิ่งที่ทำให้น่าสนใจในสมัยนี้ไม่ได้มีเพียงแต่ความเท่ห์ แต่เป็นเรื่องของสมรรถนะ ความเร็ว และราคา แน่นอนว่ามหาเศรษฐีหลายคนมักจะนิยมชอบเก็บสะสมรถหรูเป็นงานอดิเรก แต่บอกไว้ก่อนว่ารถยนต์ซุปเปอร์คาร์หลัก 10 ล้าน 100 ล้านนั้น ไม่ได้มีดีแค่เอาไว้โชว์ตามงานเท่านั้น วันนี้เราจะพาไปดูรถที่เร็วที่สุดในโลกของปี 2019 ที่แพงสมกับความสามารถของตัวมันเอง

    HENNESSEY VENOM F5

    หลายคนคิดว่ารถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกนั้นมาจากแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักระดับโลก แต่คุณจะแปลกใจเมื่อ Hennessey เป็นแบรนด์ที่สามารถผลิตรถยนต์สมรรถนะะสูงที่เร็วสุดในโลกได้อย่าง Venom F5 เป็นรุ่นที่ติดยอดพัฒนามาจาก Venom GT โดยตามทฤษฎีแล้วมันมีความเร็วสูงสุด 301 ไมล์ต่อชั่วโมง Venom F5 เป็นรถ 2 ที่นั่ง ประกอบขึ้นที่สหรัฐอเมริกา เปิดสายการผลิตในปี 2019 ใช้โครงเครื่องคาร์บอนไฟเบอร์ ทำให้มีขนาดหนักเพียง 1,338 กิโลกรัม และ Twin Turbocharged V-8 ขนาด 7.4 ลิตร ผลิตกำลังได้มากสุด 1,600 แรงม้า เร่งความเร็วพุ่งจาก 0 ถึง 249 mph และกลับไปที่ 0 ในเวลาน้อยกว่า 30 วินาที

    SSC TUATARA

    ผ่านมากว่าเจ็ดปีแล้วที่เราได้เริ่มรู้จักกับ SSC เมื่อผู้ผลิตยานยนต์พิเศษของอเมริกาประกาศว่าสร้างรถใหม่ที่จะมาเป็นผู้สืบทอดตำแหน่ง Ultimate Aero hypercar คันต่อไปภายใต้ชื่อ “SSC TUATARA” โดยจะมีความเร็วสูงสุด 265 mph แต่เมื่อมีการประกาสตัวอย่างเป็นทางการตัวเลขได้พุ่งขึ้นเป็น 300 mph กันเลยทีเดียว ด้วยขุมพลังจาก Twin Turbocharged V-8 Tuatara 5.9 ลิตร มีความกำลังขับ 1,750 แรงม้าเมื่อใช้น้ำมัน E85 ด้วยขุมพลังขนาดนี้ บวกกับความเพรียวลมของโครงสร้างที่ออกแบบมาอย่างดี จะทำให้ SSC ได้เปิดประวัติศาสตร์ใหม่อีกครั้ง คำถามเดียวที่เหลืออยู่ตอนนี้คือ Hennessey หรือ Koenigsegg จะเข้าทำความเร็วได้ 300 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ก่อนกัน

    KOENIGSEGG AGERA RS

    รถคันแรกที่สามารถทำความเร็วได้สูงสุดจริงในโลกคือ “KOENIGSEGG AGERA RS” ที่สามารถทำความเร็วได้ 284 mph ในขณะที่ Venom F5 ได้แค่อ้างว่ารถพวกเขาทำได้เกิน 300 mph โดยทางกรมการขนส่งเนวาดาทำการปิดถนนในวันที่ 4 พฤศจิกายน ปี 2017 เป็นระยะทาง 11 ไมล์ เพื่อใช้ในการทดสอบรถ Agera RS ซึ่งขับโดย Niklas Lilja นักทดสอบรถของโรงงาน Koenigsegg โดยทำความเร็วได้สูงสุด 285 mph จนได้บันทึกไว้ใน Guinness Book ว่าเป็นรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก

    ลำดับรถที่เร็วที่สุดในโลก 2019
  • รถออฟโรส

    ทำไมคุณถึงต้องเลือกใช้ 4×4 ถ้าคุณเป็นคนที่ขับรถไปทำงานในเมืองมันก็อาจไม่จำเป็น แต่ถ้าเป็นสายลุยขึ้นเขา ลงห้วย ขอบอกเลยว่าต้องเป็น 4×4 เท่านั้นที่จะพาคุณไปถึงฝั่งได้ พวกมันเป็นรถที่มีกำลังสูง ขับสนุก เหมาะกับการขับเที่ยวต่างจังหวัดในระยะทางไกล วันนี้เราจะพามาดูรถยนต์ที่นิยมของคนไทยมากที่สุด ไปดูกันว่าจะมีรุ่นไหนที่น่าสนใจกันบ้าง

    Jeep Wrangler

    คันนี้คงจะขาดไม่ได้ เพราะถือเป็นตำนานที่อยู่คู่กับวงการ 4×4 มานานเหลือเกิน เป็นหนึ่งในไม่กี่ SUVs จากยุคสมัยใหม่ที่ยังคงมีเพลาหน้าแข็งสำหรับความแข็งแกร่งสูงสุดในการลุยออฟโรด Jeep Wrangler เป็นรถยนต์ 2 – 4 ประตูที่ถูกออกแบบและผลิตโดยบริษัท Jeep ในปี 1986 ปัจจุบันนี้อยู่ในเจนที่ 4 รุ่นล่าสุดได้เปิดตัวในปลายปี 2560 และผลิตขึ้นที่ Toledo Complex อย่างที่หลายคนรู้ดีว่ามันเป็นรถยนต์ของ Jeep ถูกผลิตใช้ในการทหารส่วนใหญ่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และจากนั้นเป็นต้นมาในฐานะของ Jeep ที่ทุกคนมองคือรถยนต์ที่มีสมรรถนะสูง พร้อมที่จะลุยได้ในทุกสภาพอากาศ และถนนทุกชนิด ถือเป็นรถยนต์ที่ชื่นชอบสำหรับนักผจนภัยลุยป่า หรือแม้แต่หน่วยกู้ภัยเองก็ตาม ปัจจุบันนี้พวกเขาขายไปได้กว่า 3 ล้านคัน ในเฉพาะประเทศสหรัฐ

    Ford Ranger

    รถกระบะ 4×4 ของ Ford ที่นิยมอย่างมากในประเทศไทย ถือว่าเป็นรถที่ไม่ได้แพงแต่มีคุณสมบัติมาให้ครบสำหรับสายลุย สามารถลุยกับหิมะ น้ำแข็ง โคลนได้แบบสบายๆ เปิดตัวมาแล้วกว่า 10 ปี ตั้งแต่ปี 2001 จนถึงปี 2011รูปร่างหน้าตาก็คล้ายๆก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเท่าไหร่ ด้วยความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือ V-6 ขนาด 3.0 ลิตรถูกแทนที่เครื่องยนต์ 207 แรงม้าขนาด 4.0 ลิตร V-6 ในปี 2009 ส่วนโมเดลที่ขายในตลาดจะเป็นรุ่น 2.3 ลิตร และในรุ่นต่อมาก็ผลิตกำลังได้มากถึง 143 แรงม้า Ford Ranger ถือเป็นรถเอกประสงค์สุดๆ เหมาะสำหรับการนำขึ้นเขา ลุยป่า หรือขับไปทำงานประจำวันก็ถือว่าไม่เลวเลย ตัวเลขยอดขายในปี 2561 ตอนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 55,390 คัน ซึ่งสูงเป็นอันดับหนึ่งของโลกเลยทีเดียว

    Nissan Frontier NISMO Off-Road

    ถึงแม้ว่ามันจะเป็นที่รู้จักน้อยกว่าพวก Ford Ranger หรือ Jeep แต่ก็มีผู้นิยมใช้ไม่น้อยเลย เพราะมันมีราคาถูก แต่ลุยได้ไม่แพ้กับรุ่นพี่ Nissan Frontier NISMO Off-Road ในรุ่น 2009 ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น PRO-4X รถกระบะคันนี้มีเครื่องยนต์ V-6 ขนาด 170 แรงม้า 3.0 ลิตร มีกำลังขับสูงสุด 143 แรงม้า ถือเป็นรถทีขับสนุกในงบประหยัดที่พร้อมจะลุยไปกับเราได้ทุกที่ทุกเวลา

    รถ 4×4 ยี่ห้อไหนดีที่สุด ได้รับความนิยมมากที่สุด
  • American car

    คนที่นิยมเล่นรถคลาสสิคไม่ได้ชอบเพียงภาพลักษณ์ที่สวยงามเท่านั้น แต่ความแรงของมันนี้สิคือสิ่งที่ทุกคนหลงใหล มันถือเป็นรถต้นแบบของซูเปอร์คาร์ในสมัยใหม่ และเมื่อเราจะย้อนกลับไปดู จะต้องดูให้ถูกทีและถูกเวลา ซึ่งวันนี้เราจะพาย้อนกลับไปดูตำนานของสุดยอดรถอเมริกันที่มีแรงม้าสูงๆ แถมยังมีภาพลักษณ์ที่ดุดัน จะมีรุ่นไหนที่เคยผ่านหน้าผ่านตาเพื่อนๆกันบ้างนะ

    Chevrolet Chevelle SS396

    เป็นรถยนต์ขนาดกลางที่ผลิตโดยเชฟโรเลต มีด้วยกันทั้งหมดสามรุ่นสำหรับปี 1964 ถึงปี 1977 Chevelle เป็นหนึ่งในชื่อที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของเชฟโรเลต โดยมีรุ่น Super Sport ผลิตขึ้นในปี 1973 และ Lagunas ตั้งแต่ปี 1973 ถึง 1976 หลังจากผ่านไป 4 ปี El Camino ได้กลายเป็นรุ่นใหม่ของ Chevelle ในปี 1964 รุ่นที่น่าสนใจสุดและแรงสุดจะลงท้ายด้วย SS ซึ่งย่อมาจาก Super Sport เปิดตัววางจำหน่ายในราคา1,501 เหรียญสหรัฐ โดยแบ่งออกเป็นสามรุ่น โดยรุ่นแรกจะมีเครื่อง 325 แรงม้า รุ่นที่สอง 360 แรงม้า และสุดท้าย 375 แรงงม้า ราคาอยู่ที่ประมาณ 55,000 เหรียญสหรัฐ

    SHELBY COBRA

    นี่สิถึงจะเรียกว่ารถ muscle car พันธุ์แท้ของอเมริกันชน เป็นรถที่มีดีไซน์หรูสุดคลาสสิค มีเครื่อง 425 แรงม้า ที่มีน้ำหนัก 2,300 ปอนด์ เมื่อเทียบกับ Miata ถือว่ามีน้ำหนักเบากว่า 400 ปอนด์ แต่แรงกว่า 3 เท่า เจ้า Shelby Cobra กลายเป็นสิงห์สังเวียนของสนามแข่งมากมาย คว้าแชมป์มากว่าร้อยรายการ ถือเป็นตัวท็อปที่มีฟอร์มดีสุดในช่วงยุคปี 60 จนกลายเป็นรถที่ทุกคนอยากจะวัดกันบนถนนซักครั้ง ทุกวันนี้ก็ยังมีหลงเหลือขับกันบนท้องถนนอยู่ไม่น้อยเลย ซึ่งราคาของรถคันนี้อยู่ประมาณที่ 135,000 เหรียญสหรัฐ

    Plymouth Superbird

    จะมีใครคิดว่าในปี 1970 มันเป็นรถที่ขายไม่ออกค้างสต็อคกันข้ามปี แต่พอมันกลายมาเป็น Road Runners เท่านั้นหละ ทำให้ยอดขายพุ่งกระฉูด ตอนนี้ Superbird กลายเป็นของสะสมที่ต้องการอย่างมาก เนื่องจากหายาก มีเพียง 1,935 คันเท่านั้นบนโลก ดีไซน์สุดเท่ห์ด้วยกรวยจมูกที่โดดเด่น และปีกหลังขนาดใหญ่ ที่ขาดไม่ได้คงเป็นเสียงแตรอันเป็นเอกลักษณ์ของเจ้า Superbird คันนี้ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังจากเคลื่อนยนต์ Hemi 7.0 ลิตร ผลิตแรงม้าได้สูงสุด 425 แรงม้า เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 60 ไมล์ได้เพียง 5.5 วินาทีเท่านั้น เชื่อกันว่ามันเกิดมาเพื่อเป็นคู่แข่งกับ Ford Torino Talladega แถมยังเป็นรถที่คว้าแชมป์ NASCAR มาแล้ว 8 รายการ เนื่องจากรถคันนี้มีอยู่เพียงไม่กี่พันคัน ทำให้ราคาอยู่ที่ราวๆ 200,000 เหรียญสหรัฐ หรืออาจสูงกว่านั้น

    ทำความรู้จักรถอเมริกันแรงม้าสูง รถคลาสสิคสวยๆ
  • เมื่อพูดถึงการแข่งรถหลายคนอาจนึกถึงการแข่งที่อยู่ในสนามมีเส้นทางโค้งไปมา แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่ามีการแข่งแบบ Drag racing หรือการเล่นแดร็กอยู่ มันเป็นประเภทของการแข่งรถสำหรับ รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ด้วยการแข่งระยะสั้นเป็นเส้นตรงยาวตลอดจากจุดเริ่มต้น จนถึงเส้นชัยตามระยะทางที่กำหนด ระยะทางปกติที่ใช้ในการแขงแดร็กได้โดยทั่วไปคือ ¼ ไมล์ 1,320 ฟุต หรือ 402 เมตร และระยะทางแบบสั้นระยะ1,000 ฟุต 305 เมตร ซึ่งเป็นที่นิยมกว่าในปัจุบัน โดยการแข่งมีการใช้ระบบจับเวลาและระบบตรวจจับความเร็วแบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อบันทึกผลการแข่งขันมาตั้งแต่ปี 1960 การแข่งแบบนี้ถือว่ามีประวัติศาสตร์ยาวนานพอ ๆ กับประวัติศาสตร์ของรถยนต์ เรียกว่ามันเติบโตมาพร้อม ๆ กันเลยก็ว่าได้ ปัจจุบันมักจะมีพวกที่นำรถมาแข่งบนท้องถนนแบบ สตีทแดร็ก ถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายในทุกประเทศ

    ก่อนที่จะเริ่มการแข่งขันนักแข่งแต่ละคนจะได้รับอนุญาติให้ทำการเบรินเอ้าท์ เป็นวิธีการวอมเครื่องรถยนต์และยางให้มีความร้อนจนเกิดการเผาไห้มและทำให้ควันฟุ้งไปทั่ว เพื่อสร้างแรงฉุดให้กับตัวรถยนต์จนถึงขีดสุด ในขณะที่นั่งแข่งจะเข้าสู่ไลน์การแข่งที่ตำแหน่งตรงข้ามกัน ในการแข่งปัจจุบันจะใช้ตัวจับเวลาเริ่มที่เรียกว่าไฟคริสมาส์ ซึ่งเป็นไฟที่อยู่ด้านหน้าของนักแข่ง รวมถึงเซนเซอร์จับการเคลื่อนไหวในแต่ละเลน ประกอบไปด้วยดวงไฟสีน้ำเงิน สีเหลือง สีเขียว และสีแดง เมื่อดวงไฟสีแรกติดหลังจากที่ล้อหน้าของรถข้ามเข้าเส้นเรียกว่า “Pre-staged” ประมาณ 7 นิ้ว (180 มม.) จากเส้นเริ่มต้น เมื่อเซนเซอร์ที่ซองจับสัญญาณได้จะเรียกว่า “Staged” และไฟดวงที่สองก็จะสว่างขึ้น รถอาจออกจาก Pre-Stage ได้แต่ต้องอยู่ใน Stage จนกว่าจะเริ่มการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น betflix123

    ในสหรัฐอเมริกาจะมีการแข่งขันใหญ่อยู่ในอเมริกาเหนือจัดขึ้นโดย International Hot Rod Association โดยนิยมใช้การแข่งระยะ 1/4 ไมล์ (402m) นอกจากนี้ยังมีการแข่งแยกย่อยสำหรับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์พลังงานไฟฟ้าโดย National Electric Drag Racing Association กับยานพาหนะที่ใช้น้ำมันเบนซินประสิทธิภาพสูงเช่น Dodge Vipers ในการแข่งขัน 1/4 และ 1/8 ไมล์ (402 เมตรและ 201 ม.) ปัจจุบันมีการบันทึกการแข่งรถด้วยการวิ่งด้วยไฟฟ้าเป็นเวลา 6.940 วินาที ที่ 201.37 ไมล์ต่อชั่วโมง ไม่นานการแข่งขันก็เริ่มนิยมอย่างแพร่หลายไปทั่วทวีปเอเชียโดยเฉพาะเชีย และไทย การแข่งขันแรกเกิดขึ้นที่มุมไบในปี 2002 อีกทั้งยังยังได้รับความนิยมในปากีสถาน และแพร่ขยายไปถึงศรีลังกา ภายใต้กลุ่ม  Ceylon Motor Sports Club และส่วนใหญ่เรามักจะได้เห็นรถญี่ปุ่นที่มักถูกนำมาใช้ในงานแข่งแดร็กทั่วโลก

    drag คืออะไร และความนิยมของการแข่งรถประเภทนี้ในไทยและต่างประเทศ
  • “แข่งรถสูตรหนึ่ง” หรือ ”ฟอร์มูล่าวัน” มีรากฐานมาจากการแข่งขันชิงแชมป์ยุโรปปี 1920 และ 1930 โดยพื้นฐานของสูตรหนึ่งก็คือกฎที่กำหนดโดย Fédération Internationale de l’Automobile (FIA) ที่เริ่มต้นใช้ในปี 1946 ซึ่งทำให้เกิดการแข่งขันชิงแชมป์โลกในปี 1950 ประวัติศาสตร์ของการแข่งชนิดนี้สอดคล้องกับวิวัฒนาการของกฎระเบียบทางเทคนิคในอดีตจนถึงปัจจุบัน นอกเหนือจากการแข่งขันชิงแชมป์โลกแล้วยังมีการแข่งขันฟอร์มูล่าวันที่ไม่ใช่แชมป์ที่ได้รับความนิยมไปทั่ว เนื่องจากครั้งสุดท้ายที่จัดขึ้นในปี 1983 เนื่องจากต้นทุนการแข่งขันที่สูงขึ้น แต่ยังคงมีการแข่งระดับประเทศอยู่ในแอฟริกาใต้และสหราชอาณาจักรในยุค 60 และยุค 70

    สูตรหนึ่งถูกกำหนดขึ้นครั้งแรกโดยคณะกรรมาธิการกีฬาระหว่างประเทศ (CSI) ในปี 1946 โดยมีการกำหนดสูตรใหม่ที่ใช้ในระดับนานาชาติ นี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า Formula A, Formula I หรือ Formula 1 โดยมีชื่อว่า “Voiturette” ในขณะที่ 500c ได้รับการยกให้เป็นสูตร  3 ในปี 1950 แล้วจึงไม่เคยมีชื่อว่า “Formula C” ดังนั้นสูตรนานาชาติทั้งสามสูตรจึงเป็นเรียกอย่างเป็นทางการว่า “สูตร” ได้แก่สูตร 1 สูตร 2 และสูตร 3 ในตอนแรกสูตรส่วนใหญ่กำหนดขึ้นก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง กำหนดโดยความจุของเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นกฎระเบียบที่จะนำมาซึ่งความสมดุลใหม่ระหว่างรถยนต์ที่มีซูเปอร์ชาร์จ และรถยนต์ปกติ โดยได้มีการนำเครื่องยนต์ขนาด 4.5 ลิตร Grand Prix ไปแข่งกับ 1.5 ลิตรซูปเปอร์ชาร์จ ‘voiturettes’ ในขณะที่รถเครื่องยนต์ 3 ลิตรถูกแบนไม่ให้ใช้ในการแข่ง Grand Prix การแข่งขันครั้งแรกภายใต้ระเบียบใหม่คืองานแข่ง 1946 Turin Grand Prix จัดขึ้นวันที่ 1 กันยายน โดยมีผู้ชนะการแข่งโดย Achille Varzi จาก Alfa Romeo ด้วยรถยนต์รุ่น 158 Alfetta

    ในช่วงต้นปีมีการแข่งขันเกิดขึ้นอีกประมาณ 20 รายการจัดขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิถึงต้นฤดูใบไม้ร่วง (ฤดูใบไม้ร่วง) ในยุโรป แม้ว่าจะไม่ใช่ทั้งหมดของการแข่งที่ถือว่าเป็นที่น่าจดจำ แต่รถแข่งส่วนใหญ่ที่นำมาแข่งนั้นบินตรงมาจากอิตาลีโดยเฉพาะจากโรงงาน Alfa Romeo ไม่นานวงการรถสูตรหนึ่งก็แข่งกันพัฒนาเครื่องยนต์ที่เร็วและแรงแบบไม่มีขีดจำกัดทำให้ในปี 1994 ได้มาตระหนักถึงความปลอดภัยกันมากขึ้นหลังจากที่มีนักแข่งเสียชีวิตในสนามระหว่างการขับทดสอบในปี 1986 นอกจากนี้ก็ยังมีการรายงานอุบัติเหตุที่น่าหวาดเสียวและเสี่ยงตายอยู่เสมอ ทำให้ผู้พัฒนารถยนต์และกลุ่มที่ดูแลกฎระเบียบต้องหันมาประชุมกันโดยได้กำหนดข้อจำกัดต่าง ๆ สำหรับการส้างรถยนต์ให้อยู่ในความปลอดภัย เราจึงไม่ค่อยเห็นรถยนต์ที่วิ่งเร็วเกินกว่าเดิมมากนักแม้ว่าเวลาจะผ่านไปเป็นสิบปี

    ประวัติการ แข่งขัน F1 หรือรถสูตรหนึ่ง
  • เปิดตำนานรถที่ขึ้นแท่นว่าเร็วที่สุดในโลกอย่าง Bugatti Veyron

    น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักสุดยอดรถจากบูกัตติ ขึ้นชื่อในเรื่องความเร็วและหรูหรา แต่น้อยคนนักที่อาจจไม่รู้ว่าเจ้าของ Ettore Bugatti เป็นคนชาวอิตาเลียนแท้ ๆ แต่เป็นผู้สร้างโรงงานรถยนต์ในฝรั่งเศษ แถมยังทำให้แบรนด์บูกัตติประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ด้วยการสร้างรถยนต์ซูเปอร์คารที่เร็วที่สุดในโลก Bugatti Veyron ชื่อนี้ติดหูของเหล่านักซิ่งและคนชื่นชอบรถยนต์มานานกว่า 15 ปี ในฐานะซูเปอร์คารขุมพลังกว่า 1,000 แรงม้าที่มาพร้อมราคาสุดโหดที่ 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (66 ล้านบาท) แน่นอนว่ามันไม่แพงไปหรอกเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่มันทำได้ แถมยังมีข่าวลือว่าบริษัทบูกัตติกำลังแอบทำรถยนต์ที่มีขุมพลังกว่า 1,600 แรงม้าอยู่อย่างเงียบ ๆ แต่ก่อนอื่นเราจะพาไปดู Bugatti Veyron รุ่นแรก ๆ กันว่ามีหน้าตาเป็นอย่างไร และพวกมันเร็วขนาดไหนกัน

    บริษัทได้มีการร่างแบบและสร้างตัวทดสอบคือ 18/4 Veyron Concept มันได้เปิดตัวเมื่อปี 1999 ในโตเกียว เป็น Veyron โมเดลแรกตั้งชื่อตามนักทดสอบรถยนต์ของบูกัตติ Pierre Veyron มาพร้อมเครื่องยนต์ 6.3 ลิตร 555 แรงม้า ทำความเร็วได้สูงสุด 186.4 ไมล์ หรือเร่งความเร็วได้ถึง 60 ไมล์ในเวลาเพียง 5.3 วินาที ตัวเลขแค่นี้อาจจะเป็นเรื่องจิ๊บ ๆ สำหรับบรรดาซูเปอร์คารในปัจจุบัน แต่ใน ณ วันนั้นไม่มีอะไรมาเทียมมันได้ กว่าที่มันจะได้นำมาสร้างผู้พัฒนาบอกว่ามันใช้เวลาออกแบกว่า 15 เดือนเลยทีเดียว          หลังจากที่ถูกออกแบบและนำไปทดสอบกว่าหลายครั้ง รวมถึงมีการล่าช้ากว่ากำหนดในที่สุดก็ได้เวลาผลิตและออกจำหน่ายซักที

    โดยเปิดตัววางจำหน่ายทั่วไปในปี 2006 หลังจากมีลูกค้าหลายรายที่ไม่พอใจในความล่าช้าทีเกิดขึ้น โดยรุ่นที่ผลิตจริงมาพร้อมกับขุมพลัง 1,001 แรงม้า ทำความเร็วได้สูงสุด 253 ไมล์ต่อชัวโมง หรือจาก 0 – 62 ไมล์ต่อชั่วโมงเพียง 2.5 วินาที ถือว่าทำเวลาได้ดีกว่ารุ่นต้นแบบเป็นอย่างมาก ไม่นานก็มีการเปิดตัวเป็นรายปีสำหรับรุ่นพิเศษในปี 2007 ที่มาพร้อมกับโทนสองสีในรุ่น “Pegaso” ที่อัพเกรดมาแบบจัดเต็มถึง 1,200 แรงม้า ในปี 2008 ถือเป็นการเปิดตัวแบบแหวกแนวเมื่อผู้ออกแบบขี้เกียจหรืออย่างไรไม่รู้ พี่แกเอารถ Bugatti Veyron แบบเปลือย ๆ ไม่ผ่านการทำสีใด ๆ ทำให้เห็นวัสดุคาร์บอนและอลูมิเนียมมันวาววับสวยไปอีกแบบ สำหรับตัวล่าสุดอย่าง Bugatti Veyron 16.4 ที่มาพร้อมขุมพลัง 1,200 แรงม้า ทำความเร็วสูงสุดได้ 408 ไมล์ต่อชั่วโมง สามารถแร่ง 0 – 100 ไมล์ต่อชั่วโมงเพียง 2.6 วินาทีซึ่งทิ้งรุ่นก่อน ๆ ไปแบบไม่เห็นฝุ่นเลยทีเดียว ทำให้รถคันนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นรถที่เร็วที่สุดในโลก

    เปิดตำนานรถที่ขึ้นแท่นว่าเร็วที่สุดในโลกอย่าง Bugatti Veyron
  • เหมือนกับเรื่องราวของซูเปอร์ฮีโร่ที่ล้วนมีเรื่องเล่าตำนาน บริษัท ๆ ใหญ่ ๆ ก็เช่นกัน บริษัท Lamborghini มีจุดเริ่มเรื่องราวอยู่ในประเทศอิตาลี เป็นเรื่องระหว่าง Ferruccio Lamborghini และ Enzo Ferrari โดยในขณะที่ทาง Lamborghini ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ในการสร้างบริษัทผลิตรถแทรกเตอร์สำหรับใช้ในการเกษตร เขาให้รางวัลตัวเองด้วยการซื้อรถยนต์ซูเปอร์คาร์ของเฟอร์รารี่ หลังจากที่เขาได้ขับมันอยู่พักหนึ่งก็สังเกตุได้ถึงปัญหาของรถสุดหรูของเขา จึงให้วิศวกรในโรงงานตนเองช่วยหาสาเหตุให้จนได้รับคำตอบ ทำให้ Lamborghini นัดปรึกษาหารือกับทางเฟอร์รารี่เพื่อหาข้อแก้ไข

    เรื่องราวกลับวุ่นวายเมื่อ Ferrari  ดูถูกเจ้าของบริษัทรถแทรกเตอร์ และไม่พอใจอย่างมากที่เขามาแนะนำเรื่องการสร้างรถสปอร์ต ทำให้เขาไล่ตะเพิดแลมโบกลับไป แถมบอกว่าให้ไปทำงานของตัวเองให้ดีก่อนมาว่าคนอื่น ทำให้แลมโบรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก จึงหันมาสร้างรถสปอร์ตเพื่อให้เฟอร์รารี่เห็นว่าสุดยอดรถมันเป็นอย่างไร เขาเริ่มสร้างโมเดลแรกในปี 1960 และได้มีรุ่นที่ได้รับการยอมรับในปี 1964 คือ 350GT บริษัทของเขาเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเข้าใกล้จุดสำเร็จที่ควรเป็นปัจจุบันอีกขั้นด้วยการเปิดตัว Miura ในงาน Geneva International Motor Show ปี 1966 Miura ถือเป็นรถซูเปอร์คารตัวแรกเพราะมีเครื่องยนต์ 4.0 ลิตร 350 แรงม้า V-12 โดยมีการวางเครื่องยนต์ไว้ที่ด้านหน้าคนขับ ถัดจากกระจกหน้ารถ

    ปัจจุบันนี้ Miura ได้พัฒนาต่อจนกลายมาเป็น Avntador รถยนต์โมเดลหลักของแลมโบด้วยเครื่องยนต์ V-12 เป็นการต่อยอดที่ประสบความสำเร็จและไม่มีใครมาทัดเทียมได้ ต่อมาพวกเขาก็ได้เปิดตัวตีแสกหน้า Ferrari อย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยการเปิดตัว Lamborghini Countach ในงาน Geneva International Motor Show ปี 1973 ถูกออกแบบมาให้คล้ายกับรถในยุคอนาคต มีรูปร่างเพรียวบาง มีการเล่นมุมแต่ยังคบงไว้ซึ่งความโค้งมนเพิ่มความสวยงาม ด้วยเครื่องยนต์ 4.0 ลิตร V-12 แต่ภายหลังได้อัพเกรดเป็น 5.2 ลิตร ที่มีขุมพลัง 455 แรงม้า เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 25 ปี เมื่อปี 1988

    แต่เรื่องกลับกลายเป็นว่าพวกเขาประสบปัญหาทางด้านการเงิน จนมีกลุ่มบริษัท Volkswagen ได้เข้ามาซื้อบริษัท Lamborghini ไป และได้ออกตัวเครื่องยนต์ V-10 พวกมันมีราคาต่ำกว่ารุ่น V-12 ถึงครึ่งหนึ่ง ทำให้ Gallardo V-10 เป็นรถที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท เสริมสร้างความแข็งแกร่งทางด้านการเงินและชื่อเสียงให้กับพวกเขาเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าบริษัทจะอยู่ภายใต้กลุ่ม Volkswagen แต่ Lamborghini ยังคงไว้ซึ่งจิตวิญญาณที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง เพื่อสร้างรถซูปเปอร์คารแบบที่ควรจะเป็น สมราคา สมเหตุผล จนกลายเป็นบริษัทรถยนต์ที่มีชื่อเสียงพอ ๆ กับ Ferrari คนที่เคยดูถูกเขา

    lamborghini ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
  • จัดอันดับรถที่แพงที่สุดในโลกไม่รวยจริงซื้อไม่ได้

    รถยนต์อยู่คู่กับเราบนถนนมากกว่าร้อยปี พวกมันทำหน้าที่รับส่งเราไปยังจุดหมายอย่างปลอดภัย ในขณะเดียวกันหลายคนเลือกที่จะนำมันมาใช้ทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่ตื่นเต้นเล้าใจ อย่างเช่นการแข่งรถ หรือในบางกลุ่มอย่างมหาเศรษฐีที่ชื่นชอบในการเก็บรถสป็อตหรูราคาแพงที่ผลิตเพียงไม่กี่คันบนโลก เรียกได้ว่ารถนั้นเป็นมากกว่าแค่ยานพาหนะ พวกมันเป็นทรัพย์สินที่มีค่า เปรียบเหมือนกับม้าในอดีตที่คนมีเงินจะได้มาครอบครอง ค่าตัวรถธรรมดามีตั้งแต่ 500,000 – 2,000,000 บาท แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงรถที่มีราคาแพงเกิน 10,000,000 ที่ชายทั้งหลายต้องมองตามันเป็นวาว

    1.Bugatti Chiron

    ซูเปอร์คารุ่นล่าสุดบูกัตติเปิดตัวมาที่ราคา 2.7 ล้านเหรีญสหรัฐ (89.1 ล้านบาท) แต่คาดว่าเมื่อเปิดตัวจำหน่ายจะมีราคาพุ่งสูงถึง 3 ล้านเหรียญสหรัฐเป็นอย่างต่ำ ถือเป็นรถทรงพลังและมีความเร็วสูงที่สุด ผสมผสานกับความหรูหราตามแบบสไตล์บูกัตติ รถทั้งคันทำขึ้นด้วยมือในโรงงานที่มีช่างผู้ชำนาญการคอยประกอบทุกชิ้นส่วน สามารถเร่งความเร่วได้ 268 ไมล์ต่อชั่วโมง ด้วยเครื่องยนต์เทอรโบชาร์จ W16 8.0 ลิตร ขุมพลัง 1,500 แรงม้า ในขณะที่ความเร็วแท้จริงของมันยังไม่ได้รับการทดสอบ

    1. Koenigsegg CCXR Trevita

    สุดยอดรถซูเปอร์สปอตที่สามารถวิ่งได้บนท้องถนนแบบถูกกฎหมาย ถือรถคันแรก ๆ ที่มีการเคลือบเพชร ใช่แล้วคุณฟังไม่ผิดหรอก Trevita นำโครงคาร์บอนไฟเบอร์ไปเคลือบด้วยเพชร ซึ่งเป็นเทคโนโลยีกรรมสิทธิของ Koenigsegg ช่วยให้สีรถดำสนิทเงางาม สีขาวสว่างแสบตา ทำให้รถคันนี้มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในเรื่องสีที่สดใสเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีพร้อมขุมพลัง 1,004 แรงม้า เทอรโบชาร์จเจอร์ V8 ตอนแรกบริษัทจะผลิตจำนวน 3 คัน แต่ไป ๆ มา ๆ เหลือแต่ 2 คันเท่านั้น เพราะแต่ละคันใช้เวลาในการสร้างนานมาก จึงไม่เหมาะกับทำจำนวนหลายคัน เปิดตัวอยู่ที่ 4.8 ล้านเหรียญ (158.4 ล้านบาท)

    3.Swptial Rolls Royce

    ก่อนที่เราจะมาพูดถึงราคาค่าตัวของรถคันนี้ ขอบอกไว้ก่อนว่ารถนี้ไม่ได้วางขายทั่วไปตามตลาดรถยนต์ เพราะถูกสั่งทำขึ้นมาแบบพิเศาตามคำขอของมหาเศรษฐีที่ไม่ระบุนาม Rolls Royce ขึ้นชื่อในเรื่องการผลิตรถยนต์ประสิทธิภาพสูง ทั้งคงไว้ซึ่งในความหรูหรามีระดับ แต่สำหรับรถคันนี้ถูกสร้างมาให้เหนือไปกว่านั้น ในรุ่นนี้สามารถนั่งได้เพียง 2 คน ซันรูฟสามารถมองเห็นได้ทะลุได้อย่างชัดเจนสมบูรณ์ รูปลักษณะภายนอกถูกออกแบบมาให้เหมือนกับรถม้าในสมัยก่อน ถ้าใครสนใจอยากจะให้เขาผลิตให้ซักคันก็ได้ในราคา 13 ล้านเหรียญสหรัฐ (429 ล้านบาท) เท่านั้นเอง

    จัดอันดับรถที่แพงที่สุดในโลกไม่รวยจริงซื้อไม่ได้
  • drift คืออะไร ต้นกำเนิดของการดริฟต์มาจากไหน

    Drifting (ดริฟต์) เป็นเทคนิคการขับรถแบบหนึ่ง ซึ่งเกิดจากผู้ขับขี่บังคับให้เกิดการลื่นไถล่ของรถเรียกว่าโอเวอร์สเตียร์ (Oversteer) ทำให้สูญเสียแรงดึงในล้อหลังหรือยางทั้งหมด ในขณะที่ยังสามารถควบคุมการเลี้ยงรถได้อย่างอิสระ การใช้เทคนิคแบบนี้ถือเป็นที่นิยมจนมีการจัดการแข่งขันดริฟท์ขึ้นทั่วโลก ส่วนต้นกำเนิดที่แน่ชัดยังไม่มีใครรู้ว่ามันเริ่มต้นโดยใคร แต่ที่รู้ ๆ คือมันเริ่มนิยมกันในประเทศญี่ปุ่น Kunimitsu Takahashi ถือเป็นนักแข่งรถสำคัญที่ได้เป็นผู้นำเทคนิคการดริฟ์มาใช้ ต่อมา Keiichi Tsuchiya ไดสนใจเทคนิคการขับรถของ Takahashi จึงได้พยายามศึกษาเทคนิคการขับจากภาพงานแข่งของเขา โดยใช้ผู้เขาในประเทศญี่ปู่นเป็นสนามฝึกขับ ไม่นานเขาก็มีชื่อเสียงในหมู่นักแข่งด้วยกัน จนในปี 1987 นิตยสารรถแข่งได้ถ่ายทำวีดีโอการดริฟ์ของ Tsuchiya จนทำให้เกิดความสนใจไปทั่วทุกมุมโลก จนแฟน ๆ ตั้งฉายา “ดริฟคิง” ให้แก่เขา

    ปกติแล้วรถที่จะนำมาใช้ดริฟต์จะเป็นรถที่มีน้ำหนักเบา หรือขนาดปานกลาง ขับเคลื่อนสองล้อหลัง โดยเฉพาะรถเก๋งที่ให้แรงขับแบบที่สูง ในขณะเดียวกันก็มีการนำรถขับเคลื่อน 4 ล้อมาแปลงเป็นขับเคลื่อน 2 ล้อใช้ดริฟต์กันก็มี ต่างประเทศนิยมใช้รถที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในตลาดอเมริกาที่มีการนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศเข้ามาขายในบ้านมาเกือบร้อยปี หรือจะเป็นในอังกฤษก็มีความนิยมเช่นเดียวกัน ส่วนรถอันเป็นที่นิยมได้แก่ ยี่ห้อ Nissan Silvia S15, Skyline R34, Silvia S13 ยี่ห้อ Toyata Levin AE86, Chaser JZX100, Alterzza SXE10 ยี่ห้อ Mazdar RX-7 และสุดท้ายคือ Subaru Impreza ทั้งหมดนี่ล้วนเป็นรถยนต์ประสิทธิภาพสูงที่เหล่านักแข่งชื่นชอบเป็นอย่างมาก เพราะมีความคล่องตัว เหมาะสำหรับการนำมาขับดริฟต์ในสนามแข่ง

    ยางเป็นชิ้นส่วนสำคัญที่ขาดไปไม่ได้สำหรับรถยนต์ โดยเฉพาะในรถที่นำมาดริฟต์ โดยางจะมีลักษณะเดียวกับยางรถแข่ง แต่มีการเพิ่มดอกยางตื้นติดมาด้วย ซึ่งแตกต่างจากยางของรถแข่งปกติ แต่ถือเป็นข้อยกเว้นในการแข่งในงาน D1GP และ Formula Drift การเลือกยางที่เหมาะสมถือว่าส่งผลต่อประสิทธิภาพในการดริฟต์ด้วยเช่นกัน ส่วนยางที่ได้รับความนิยมในการแข่งได้แก่ Hankook Ventus RS-3, Yokohama ADVAN Neova AD08R และ Achilles Radial 123s ปัจจุบันนี้ให้การยอมรับการขับรถดริฟต์เป็นอย่างมาก จนในภาพยนต์หนังแอคชั่นมักจะใส่ฉากรถซิ่งสุดมันส์กันเสมอ หรืออย่างในภาพยนต์หนังแข่งรถเช่น The Fast and the Furious ที่ผู้ชมจะได้เห็นฉากดริฟต์มากมายตลอลทั้งเรื่อง

    drift คืออะไร ต้นกำเนิดของการดริฟต์มาจากไหน
  • เปิดตำนาน Nissan Skyline GTR สุดยอดตัวแรงในอดีต

    หากนึกถึงรถแรงในอดีตที่ผ่านมาเชื่อเหลือเกินว่าต้องมีชื่อของ Nissan Skyline GTR เข้าไปนั่งอยู่ในใจของหลายๆ คนอย่างแน่นอน นั่นเพราะรถรุ่นนี้ถือว่าเป็นรถที่มีความแรงในระดับต้นๆ ของยุค 10-20 ปีที่ผ่านมาเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้การดีไซน์ของ Nissan Skyline GTR ยังทำได้สะดุดตาชนิดที่ว่าควรค่าแก่การเป็นเจ้าของอย่างมากโดยเฉพาะบรรดาผู้ที่รักการแต่งซิ่งทั้งหลาย จะว่าไปแล้ว Nissan Skyline GTR มีความเป็นมายาวนานกว่า 50 ปี จากรุ่นแรกที่ผลิตขึ้นมานั่นคือ Prince Skyline จุดเด่นของ Nissan Skyline GTR ทุกรุ่นคือการเป็นรถสปอร์ต 2 ประตู วางเครื่องยนต์ด้านหน้า ขับเคลื่อนล้อหลัง ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่ก็มีความแรงไม่ต่างกัน ดังนั้นจึงขอยกตัวอย่าง Nissan Skyline GTR ที่โด่งดังให้ได้รู้จักถึงตำนานขนานแท้

    Nissan Skyline GTR กับรุ่นระดับตำนานขนานแท้

    1. Prince Skyline – บริษัทผลิตรถยนต์เล็กๆ ในญี่ปุ่นนามว่า Prince Motor Company ก่อนเข้ารวมกิจการกับ Datson เปลี่ยนชื่อเป็น Nissan นี่คือต้นตระกูลของรถแบบ Skyline อย่างแท้จริง ในยุคนี้รถทั่วไปยังมีกำลังในการขับขี่ไม่มากนัก วิ่งความเร็วสูงสุดไม่เกิน 120 กม./ชม. ทว่า Prince Skyline สามารถเร่งความเร็วได้ถึง 160 กม./ชม. กับเครื่องยนต์ขนาดเล็กเพียง 1,482 cc 4 สูบ 60 แรงม้า จัดว่าเป็นต้นแบบของจริง
    2. Nissan Skyline 2000 GTR C10 1969 – ความเป็นรถแข่งค่อยๆ ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจนในรถ Nissan Skyline GTR รุ่นนี้ กลายเป็นรถแข่งชั้นเยี่ยมที่วิ่งได้ทั้งในสนามแข่งและการแข่งแรลลี่ทั่วโลก เป็นรถที่มักนิยมนำมาขับแข่งกันในเวลากลางคืน วางระบบเครื่องยนต์ 6 สูบ 1998 cc 160 แรงม้า
    3. Nissan Skyline 2000 GTR 1973 – เริ่มนำไฟท้ายกลมสองดวงเข้ามาใส่ก่อนจะกลายเป็นสัญลักษณ์ของ Nissan Skyline GTR ไปโดยปริยาย กับทุกๆ รุ่น แต่ด้วยช่วงเวลาดังกล่าวปัญหาเกี่ยวกับสภาวะน้ำมันส่งผลกระทบทั่วโลกทำให้ Nissan Skyline GTR รุ่นนี้ขายไม่ค่อยดีมากนัก วางเครื่องยนต์ 6 สูบ 1998 cc Dohc ติดตั้งคาร์บูเรเดอร์สามตัว
    4. Nissan Skyline GTR 1989 (R32) – มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเพื่อทำให้สามารถยึดเกาะถนนได้ดีขึ้นขณะวิ่งด้วยความเร็วสูง เครื่องยนต์เทอร์โบรหัส RB26 Dett วางระบบเครื่องยนต์เรียงแถว 6 สูบ 2568 cc Twin turbo อัตราเร่งเร็วสุดๆ จาก 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลาเพียง 7 วินาทีเท่านั้น
    5. Nissan Skyline GTR R35 2008 – ในช่วงระหว่างนี้ Nissan Skyline GTR ถือว่าค่อนข้างเป็นกระแสน้อยลงจากการออกแบบที่ไม่ค่อยโดนใจกระทั่งมาถึงตัวนี้ที่ต้องบอกว่าเหมือนกลับชาติมาเกิดใหม่อีกครั้ง วางระบบเครื่องยนต์เรียงแถว 6 สูบ ทวินเทอร์โบ 3799 cc 24 valve แรงม้า 6400 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลา 4 วินาที
    เปิดตำนาน Nissan Skyline GTR สุดยอดตัวแรงในอดีต
  • Subaru XV สุดยอดรถครอบครัวจากแดนปลาดิบ

    การมีรถครอบครัวดีๆ สักคันย่อมสร้างความอบอุ่นใจให้กับทุกคนในบ้านได้อย่างดี ไม่ว่าจะเดินทางไปไหนหากมีความปลอดภัยในตัวรถสูงนั่นก็หมายถึงว่าความปลอดภัยในชีวิตก็สูงตามไปด้วยเช่นเดียวกัน หากใครที่กำลังมองหารถครอบครัวคุณภาพดีแบบนี้อยู่ Subaru XV คือรถอีกรุ่นที่จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้ไม่ยาก ทีสำคัญการันตีด้านความปลอดภัยด้วยการคว้ารางวัลสุดยอดรถยนต์ด้านความปลอดภัยจากสถาบันทดสอบความปลอดภัยรถยนต์ยุโรป 2017 หรือ European New Car Assessment Programme ด้วย

    สุดยอดรถครอบครัวเน้นความปลอดภัยไปกับ Subaru XV

    ด้วยคุณภาพของตัวรถที่ยืนยันด้านความสวยงามได้เป็นอย่างดีแล้วโปรดอย่าลืมว่าเรื่องของความปลอดภัยก็เป็นสิ่งสำคัญในการใช้รถด้วยเช่นเดียวกัน เพราะหากสวยงามแต่ตัวรถแต่ขาดซึ่งความปลอดภัยมันคงเป็นเรื่องไม่ดีแน่ยิ่งเป็นรถที่ต้องโดยสารกันทั้งครอบครัวความปลอดภัยยิ่งต้องมาเป็นอันดับหนึ่งเหนือความสวยงามด้วยซ้ำ Subaru XV ได้ตอบสนองความต้องการของการเป็นรถครอบครัวอย่างดีเยี่ยม ด้วยการผสานการออกแบบสไตล์ Dynamic X Solid กระจังหน้าเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมเรขาคณิต ไฟหน้าออกแบบเป็นทรงตาเหยี่ยว Projector LED โคมดำสร้างความโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นกว่าเดิม ทำให้ดูดุดันมากกว่ารุ่นอื่นๆ ตัวล้อเป็นแบบอัลลอย 5 ก้าน สีทูโทน ขนาด 17 นิ้ว มาพร้อมกับตัวยาง 225/60 R 17 ตัวรุ่นที่เข้ามาจำหน่ายในเมืองไทยเป็นเครื่องยนต์เบนซิน Boxer แบบพัฒนาใหม่ระบบ FB20 พร้อมกับ Direct Injection 2.0 ลิตร 156 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที กำลังแรงบิดสูงสุด 196 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังเต็มสมรรถนะด้วยระบบของการควบคุมวาล์วชนิดแอคทีฟคู่กับระบบเกียร์ CVT รุ่นใหม่แบบ 7 สปีด ระบบการขับเคลื่อน 4 ล้อ มีความสมมาตรตลอดเวลา Symmetrical all-wheel drive พร้อมเสริมด้วยระบบ X-Mode ส่งผลให้การควบคุมเครื่องยนต์ทำได้ดีมากขึ้น ระบบส่งกำลังตามระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    แต่อย่างที่กล่าวว่าเหนือสิ่งอื่นใดคือ Subaru XV ได้รับรางวัลการันตีจากสถาบันทดสอบความปลอดภัยรถยนต์ยุโรป 2017 มีการออกแบบเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สร้างความปลอดภัยได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ภายใต้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Subaru Global Platform พร้อมระบบ EyeSight Driver Assist System ที่ได้มาตรฐานแม้ว่ารุ่นในไทยจะไม่มีแต่ก็มั่นใจได้ว่าความปลอดภัยไม่ต่างกันแน่นอน จากความมั่นใจต่างๆ ที่ทางบริษัทเองพยายามสร้างสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้งานรถยนต์ทุกคนทำให้มั่นใจได้ว่าการใช้งานรถยนต์ของ Subaru จะทำให้มั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยอย่างแน่นอนไม่ว่าจะเป็นตัวคุณหรือคนที่คุณรักก็ตาม

    Subaru XV สุดยอดรถครอบครัวจากแดนปลาดิบ
  • Rolls Royce Sweptail สุดยอด ยนตกรรม เพียงหนึ่งเดียวที่หรูหราที่สุดในโลก

    ครั้งที่ Rolls Royce เปิดตัวยนตรกรรมรุ่น 103EX ออกมาให้คนทั่วโลกได้สัมผัสก็ได้สร้างความต้องการให้กับเหล่าบรรดาลูกค้าที่ต้องการสั่งผลิตตัวถังพิเศษที่เกิดขึ้นคันเดียวในโลกตามแบบฉบับอันไม่เหมือนใคร Rolls Royce รุ่นดังกล่าวได้สร้างปรากฏการณ์สั่งผลิตซึ่งมอบความหรูหราที่ช่วยสร้างรถยนต์ในฝันของทุกคนได้ตามต้องการ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของรถสั่งผลิตสุดหรูอันแสดงออกถึงตัวตนผู้ขับขี่หรือผู้เป็นเจ้าของได้อย่างสมบูรณ์แบบ กระทั่งได้มีการสร้าง Rolls Royce ตัวใหม่ขึ้นมาอีกครั้งเพื่อตอบสนองด้านยานยนต์ตามความต้องการของคนที่รักรถยนต์ 2 ที่นั่ง ในแบบฉบับของตนเองมีนามว่า Rolls Royce Sweptail เป็น Rolls Royce ที่จะได้สัมผัสถึงความรู้สึกยุค 1920 ซึ่งผู้ที่เรียกร้องดังกล่าวขอร้องให้ Rolls Royce ปรับรูปลักษณ์เพื่อสร้างสุดยอดรถยนต์ไม่เหมือนใครในแบบฉบับของเขา

    Rolls Royce Sweptail สุดยอดนวัตกรรมยานยนต์ที่หรูหราเพียงหนึ่งเดียว

    Rolls Royce Sweptail ได้มีการเปิดตัวขึ้นอย่างเป็นทางการ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 โดยประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Rolls Royce Motor Cars ได้ระบุเอาไว้ในงานว่า นี่คือสุดยอดรถยนต์อันเต็มไปด้วยเสน่ห์ชวนน่าหลงใหลเพื่อการเดินทางตามแบบฉบับของตนเอง เหมือนเป็นการประกาศให้โลกได้รู้ว่า Rolls Royce คือผู้นำในด้านรถยนต์สังผลิตสุดหรูที่มีเกียรติประวัติยาวนาน Rolls Royce Sweptail คืออีกบทพิสูจน์ชั้นดีว่า Rolls Royce ได้สร้างความสำเร็จออกมาอีกขั้นในฐานะของการเป็นแบรนด์ยานยนต์สั่งผลิตของแท้ มีการรับฟังความต้องการของลูกค้าอย่างละเอียดเพื่อต้องการนำเงินทุนมาสร้างเป็นสิ่งพิเศษที่สุดมีชิ้นเดียวบนโลก

    สำหรับ Rolls Royce Sweptail ได้มีการนำเสนอเอกลักษณ์ของ Rolls Royce ทุกรุ่นออกมาได้อย่างชัดเจน หน้ารถบ่งบอกถึงความมั่นใจ แข็งแรง ดีไซน์ตะแกรงหน้าสไตล์ Rolls Royce Pantheon ผลิตจากอลูมีเนียมแข็งแรง ขัดเงาจนเงางามดังกระจก แต่งขอบด้านหน้าทั้งหมดจากอลูมีเนียมขัดขาว ด้านข้างใช้ดีไซน์ลายเส้นเน้นความหรูหรา พลิ้วไหว ตัวล้อรับกับดีไซน์อันแสนวิเศษ บ่งบอกถึงความเป็นยานยนต์คูเป้ระดับสูงจากการออกแบบกระจกหน้าและแนวเส้นหลังคาดูต่อเนื่องไร้ที่ติ ด้านท้ายตัวรถก็ดูกลมกลืนกับการออกแบบทั้งหมด กระโปรงท้ายยื่นออกมาสร้างความรู้สึกทีหรูหรามากขึ้นไปอีก ตัวท้ายรถนี้ได้แรงบันดาลใจจากเรือยอชท์ มีรูปทรงที่ลู่ลม เรียกว่าความหรูหรา แข็งแกร่ง และความพลิ้วไหวเข้ากันได้อย่างเหมาะสมพอดี นอกจากนี้ฟังก์ชั่นภายในต้องบอกว่าครบครันตามแบบฉบับ Rolls Royce ถือได้ว่าเป็นรถสั่งผลิตที่งดงามมากที่สุดคันหนึ่งของโลก เป็นรถ Rolls Royce ที่ประเมินค่าได้ยากจริงๆ สำหรับรถอย่าง Rolls Royce Sweptail

    Rolls Royce Sweptail สุดยอด ยนตกรรม เพียงหนึ่งเดียวที่หรูหราที่สุดในโลก
  • สุดยอดรถ

    รถยนต์ตระกูล Civic จัดว่าเป็นรถยนต์ที่ค่อนข้างได้รับความนิยมมากๆ ของยี่ห้อฮอนด้า เป็นรถยนต์ในตำนานที่อยู่ในวงการรถยนต์มายาวนานกว่า 43 ปี แถมยังเป็นรถยนต์ที่เคยมีการเปิดตัวไปแล้วมากกว่า 10 เจเนอเรชั่นด้วย ถือว่าเป็นรถยนต์ที่คนทั่วโลกนิยมใช้กันไม่น้อยโดยเฉพาะในประเทศไทยเองก็เป็นประเทศหนึ่งที่รถยนต์รุ่น Civic กลายเป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมในท้องตลาดมาโดยตลอด แถมตอนนี้ได้มีการออกรุ่นใหม่เพิ่มขึ้นมาที่เป็น All new Civic ยิ่งทำให้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลกันเลยทีเดียว

    ตัวตนของความเป็น  All new Civic

    จุดแรกที่เราเห็นได้อย่างชัดเจนที่สุดของความเป็น  All new Civic ตัวนี้ก็คือดีไซน์ที่ดูเป็นทรงสปอร์ตมากขึ้น มีความเท่มากยิ่งขึ้น เหตุผลหลักที่ทำให้ทุกคนรู้สึกแบบนี้ไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องของการออกแบบเพียงอย่างเดียวแต่มาจากการที่  All new Civic ถูกพัฒนาขึ้นมาบนพื้นฐานของตัวรถที่มีขนาดใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม กว่ากว่ารุ่นเดิมๆ ที่เคยทำประมาณ 50 มิลลิเมตร ฐานล้อมีความยาวมากขึ้นประมาณ 1.2 นิ้ว ภายในบริเวณตัวถังที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ดีไซน์ของรถดูโฉบเฉี่ยวปราดเปรียวเวลามองไปที่ตัวรถให้ความรู้สึกว่ามันดูเพรียวมากขึ้นกว่าเดิมซึ่งเป็นผลมาจากเรืองของความสูงที่ลดลงกว่าเดิมให้ดูคล่องตัวมากยิ่งขึ้น โดย  All new Civic ตัวนี้โหลดเตี้ยลงกว่าจากรุ่นก่อนประมาณ 1 นิ้ว ความยาวตลอดคันของตัว  All new Civic อยู่ที่ 4,630 มิลลิเมตร กว้าง 1,799 มิลลิเมตร สูง 1,416 มิลลิเมตร ความยาวของฐานล้อ 2698 มิลลิเมตร ความสูงใต้ท้องรถ 125 มิลลิเมตร ถือว่าเป็นรถยนต์ที่มีความเป็นสปอร์ตคาร์อยู่ในตัวแบบเต็มร้อยเลยทีเดียว ส่วนสีภายนอกตัวรถก็จะมีให้เลือกหลักๆ 5 สี ประกอบไปด้วย สีน้ำเงินคอสมิกหรือเทลัลลิกนั่นเอง, สีดำคริสตัลหรือสีดำมุก, สีขาวออร์คิดหรือสีขาวมุก, สีเงินลูน่าร์หรือสีเงินเมทัลลิก และสีเทาโมเดิร์นสตีลหรือสีดำเมทัลลิก ตัวกระจังหน้าไม่ได้เป็นโครเมียมแต่มีการออกแบบให้เป็นสันยื่นออกดูมีมิติโดดเด่น

    ข้อดีของ  All new Civic

    1. ภายในห้องโดยสารกว้างขวางโอ่อ่า สามารถนั่งได้แบบสบายๆ ไม่มีความอึดอัด
    2. การออกแบบดูโฉบเฉี่ยวมากกว่าที่เคย มีความสวยงามกว่ารถในรุ่นเดียวกันเยอะ
    3. สมรรถนะในการขับขี่ก็ยังมีความคงเส้นคงวา เกาะถนน
    4. ความกว้างของกระโปรงหลังก็มากเพียงพอในการใส่สิ่งของต่างๆ ที่ต้องการลงไปได้แบบเต็มที่
    5. มีการเพิ่มเทคโนโลยีต่างๆ มากมายในตัวรถให้ผู้ใช้งานสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่ต้องเป็นกังวลใจ

    รีวิว All New Honda Civic มีอะไรน่าสนใจมากกว่าแค่การเป็นโมเดลเชนจ์

     

    All new Civic ดีอย่างไร
  • สุดยอดรถ

    ถือเป็นเรื่องปกติของรถยนต์ทั่วๆ ไปในปัจจุบันเมื่อมีการหมุนเวียนมาบรรจบครบรอบ 3 ปีของการใช้งานก็มักจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรุ่นนั้นๆ อยู่เสมอเพื่อเป็นการพัฒนาที่ก้าวขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งปกติแล้วการเปลี่ยนแปลงรูปแบบที่ว่านี้ไม่ได้หมายถึงว่าจะมีการเปลี่ยนไปแบบสิ้นเชิงแต่ภาษารถยนต์จะใช้คำว่า All nex หรือ ไมเนอร์เชนจ์ ก็ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งก็หมายถึงเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบเล็กๆ น้อยๆ ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ประมาณ 6-7 ปีต่อครั้ง ซึ่งรถยนต์ตระกูล Camry เองก็จัดว่าเป็นรถยนต์ในตระกูลดังของโตโยต้าที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งตัว All new Camry นี้ก็จัดเป็นตัวรถยนต์ในตระกูล Camry ตัวล่าสุดที่กำลังถูกจับจองเพื่อเอาไว้ใช้งานไม่น้อย

    All new Camry รถยนต์ที่เหนือระดับ

    การเปลี่ยนแปลงที่ค่อนข้างใหญ่โตของรถตระกูล Camry นำมาสู่ตัวตนที่ทุกคนต้องลองมาพิสูจน์ด้วยตนเอง นับว่าเป็นการตอบโจทย์ที่ตรงประเด็นสุดของทางโตโยต้าเลยก็ว่าได้ที่กล้าในการเปลี่ยนรถยนต์นั่งซีดานกลางสุดหรูหรารุ่นนี้ ขยับเข้ามาหากลุ่มบุคคลที่เป็นวัยหนุ่มมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันคนระดับคุณพ่อก็สามารถที่จะใช้งานได้อย่างไม่ได้มีอะไรที่ต้องคิดมาก สาเหตุหลักส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่ามาจากการเปลี่ยนแปลงในประเทศสหรัฐฯ โดยรถยนต์ซีดานขนาดกลางเข้ามามีอิทธิพลต่อการใช้งานเพื่อครอบครัวมากยิ่งขึ้นมากกว่ารถยนต์ประเภทมินิแวนที่เป็นรถยนต์เอนกประสงค์ ทำให้ตัวของ All new Camry ถูกพัฒนาให้มีความลงตัวมากยิ่งขึ้นกว่าที่เคยเป็นมาในอดีต ด้านหน้ามีการเปลี่ยนแปลงใหม่การออกแบบถูกสร้างให้ล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น มีความเป็นสปอร์ตมากขึ้นอย่างไรก็ดีก็ยังไม่ได้ทิ้งลายความเป็นรถยนต์สุดหรูหราไปเสียทีเดียว ช่องไฟตัดหมอกเองก็มีความสวยงามมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอัลลอยขนาด 16 นิ้ว ภายในห้องโดยสารมีความกว้างขวางลงตัว มีระบบเพื่อความบันเทิงที่ครบครัน กระโปรงท้ายมีขนาดกว้างใหญ่สามารถบรรทุกของได้เยอะ เครื่องยนต์ระบบ VVti-W ทำให้สามารถทำกำลังได้ดีกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัวไปเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีระบบใหม่ๆ อีกมากมายที่พร้อมให้คุณได้ทดสอบหากมีความสนใจ

    ข้อดีของ All new Camry

    1. มีการปรับเปลี่ยนการออกแบบรูปทรงใหม่ทำให้เหมาะสมกับคนหนุ่มมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ช่วยเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ๆ ได้อีกเยอะ
    2. ภายในห้องโดยสารกว้างขวางนั่งสบาย พร้อมด้วยระบบเพื่อความบันเทิงที่ครบครัน
    3. เครื่องยนต์ระบบใหม่ที่ช่วยให้สร้างกำลังในการขับขี่ที่แรงมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว
    4. มีสมรรถนะในการขับขี่ที่ดีมากกว่ารุ่นเดิมหลายเท่าตัว มีระบบความปลอดภัยที่รู้สึกได้ถึงความปลอดภัยของผู้ใช้งาน

     

    All new Camry ดีอย่างไร
  • สุดยอดรถในดวงใจ

    รถกระบะจัดได้ว่าเป็นรถยนต์อีกประเภทหนึ่งที่คนไทยรวมถึงคนทั่วโลกค่อนข้างนิยมใช้กันมากพอสมควร ด้วยความที่รถประเภทนี้เป็นรถที่สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็นการใช้ส่วนตัวสำหรับบรรทุกคนโดยสารหรือใช้งานสำหรับการบรรทุกสิ่งของทั่วไป มันจึงทำให้รถประเภทนี้เป็นรถเอนกประสงค์อีกรูปแบบที่คนทั่วไปก็นิยมซื้อมาใช้งานไม่น้อยเลยทีเดียว

    Isuzu ผู้ผลิตรถกระบะที่ได้รับการยอมรับ

    หากว่ากันถึงยี่ห้อรถกระบะก็มีอยู่ด้วยกันมากมายหลากหลายซึ่งหนึ่งในยี่ห้อรถกระบะที่ค่อนข้างได้รับความนิยมอย่างมากก็คือ Isuzu หรืออาจเรียกได้ว่านี่เป็นเจ้าแห่งการผลิตรถกระบะเจ้าหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้ เนื่องจากว่ารถส่วนใหญ่ของยี่ห้อ Isuzu จะเป็นรถกระบะแทบทั้งหมด ทำให้เวลาที่คนทั่วไปนึกถึงการใช้งานหรือต้องการซื้อรถกระบะ Isuzu จะเป็นเป้าหมายอันดับต้นๆ ในการที่จะเลือกหาเพื่อเปรียบเทียบในเรื่องต่างๆ ซึ่งในประเทศไทยเอง Isuzu ก็จัดได้ว่าเป็นยี่ห้อรถกระบะที่คนไทยหลายคนนิยมใช้กันซึ่งแน่นอนว่ามันไมได้เกิดจากกระแสแต่มันเกิดจากการที่มีผู้ใช้งานจริงแล้วมาบอกต่อๆ กันถึงสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของรถกระบะยี่ห้อนี้

    Isuzu ผู้ครองแชมป์รถกระบะขายดีต่อเนื่อง

    จากการสำรวจของหลายๆ บริษัทระบุเอาไว้ค่อนข้างชัดเจนว่ารถกระบะของ Isuzu คือรถกระบะที่ครองแชมป์ยอดขายสูงสุดต่อเนื่องมาโดยตลอดโดยในช่วง 2 ปีหลังถือว่าเป็นเจ้าแห่งรถกระบะตัวจริงด้วยยอดจำหน่ายที่สูงกว่ารถกระบะยี่ห้ออื่นๆ ซึ่งหากมองกันให้ลึกลงไปคงไม่ได้มีมีดีแค่ชื่อยี่ห้อหรือว่าการโฆษณาเพียงอย่างเดียว ผู้ที่จะตัดสินใจเลือกซื้อรถได้สักคันเขาต้องมีการคิดเพื่อประกอบการตัดสินใจหลายๆ อย่าง Isuzu เองก็เป็นอีกยี่ห้อหนึ่งที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดของการขายเริ่มต้นตั้งแต่การให้บริการ การเริ่มต้นอธิบายของพนักงานขาย เรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ของตัวผู้จัดจำหน่าย เรื่องของการเจรจาตกลงเป็นไปได้ด้วยดี หรือแม้แต่ขั้นตอนการส่งมอบรถก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้รถกระบะ Isuzu ครองแชมป์ให้เป็นรถกระบะที่มียอดขายดีมาโดยตลอด

    อีกประเด็นที่น่าสนใจสำหรับรถกระบะ Isuzu คือนอกจากจะเป็นยี่ห้อที่เน้นผลิตเรื่องของรถกระบะแล้ว การให้ความสำคัญในดีไซน์ภาพลักษณ์ต่างๆ ก็สำคัญไม่น้อย เราจะเห็นว่ารถกระบะของ Isuzu ดูผ่านๆ ก็หน้าตาเหมือนรถกระบะทั่วไป แต่หากมองอย่างพิจารณาจะเห็นว่า Isuzu พยายามออกแบบลูกเล่นใหม่ให้กับรถกระบะอยู่ตลอดเวลา จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใจเลยหากจะบอกว่านี่คือเจ้าแห่งรถกระบะตัวจริงเสียงจริง

    Isuzu ครองแชมป์รถกระบะอย่างต่อเนื่อง
  • รถแต่ละรุ่นที่แข่งกันอยู่ในตลาดตอนนี้เชื่อว่าเรื่องของประสิทธิภาพเป็นสิ่งที่คนซื้อต้องถามหาอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นวิ่งดีไหม ประหยัดน้ำมันไหม แต่ก็จะมองข้ามเรื่องดีไซน์ภายนอกไปไม่ได้เหมือนกัน เพราะถ้ารถสวยยังไงก็น่าสนใจกว่าอยู่แล้ว วันนี้เราจะไปดูรถอีกรุ่นหนึ่งที่ต้องบอกว่าเป็นเอกลักษณ์แหวกแนวไม่เหมือนใครเลยนั่นคือ Nissan Juke

    Nissan Juke มีอะไรดี อะไรโดน

    หากจะถามว่า Nissan Juke มีอะไรดี คำว่า “อินดี้” น่าจะเหมาะกับเค้าเป็นที่สุด เนื่องจาก จู๊คเป็นรถครอสโอเวอร์ที่มีดีไซน์แตกต่างไปจากคันอื่นในท้องตลาดไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นการยกสูงกว่าปกติ ไฟหน้าตากลมโต เหมือนกับรถกำลังมองมาที่เรายังไงยังงั้น ส่วนท้ายก็เป็นเล็ก กระทัดรัด เหมือนรถไซส์เล็ก อย่าง นิสสันมาร์ช แต่ไม่น่าเชื่อว่ามันกลับเข้ากันได้อย่างประหลาด กลายเป็นรถที่โดดเด่นทางด้านดีไซน์ไปได้ ทำให้คนที่ทำงานเกี่ยวกับการออกแบบหลายคนเห็นแล้วชอบเลย

    Nissan Juke ตกแต่งติดตั้งอะไรมาบ้าง

    ตอนที่เราเขียนบทความชิ้นนี้ เวอร์ชั่น 2017 ยังไม่ออกมาเป็นทางการ ก็เลยต้องไปหยิบรุ่นก่อนหน้านี้มาแทน Nissan Juke เลือกใช้ไฟหน้าแบบ โปรเจคเตอร์ บวกกับหลอดไฟซีนอลสีขาวช่วยให้มองเห็นได้สว่างขึ้น กระจังหน้าแบบสปอร์ต เอกลักษณ์อยู่ที่ลายบูมเมอแรงสีดำไม่เหมือนใคร ที่ชอบอีกอย่างเป็นไฟเลี้ยวที่กระจกด้านข้าง ออกแบบเป็นรูปลูกศรด้วย เท่ชะมัด ประตูด้านหลังมาแปลกด้วยการใส่ที่เปิดประตูไว้ด้านข้างของประตูตรงใกล้กับกระจก ด้านหลังติดสปอยเลอร์ กับเสาอากาศธรรมดา

    Nissan Juke ห้องโดยสารสไตล์สปอร์ตเท่ ไม่ซ้ำใคร

    ภายนอกว่าเด่นแล้ว ภายในเด่นกว่าภายนอกอีก ด้านในเป็นการตกแต่งแบบสปอร์ตที่ไม่เหมือนใครจริงๆ สะดุดตาแวบแรกที่ชุดเกียร์ที่มีฐานรองสีแดงสดเตะตาอยู่ ขยับสายตาต่อไปที่พักแขนเป็นช่องว่างแก้วน้ำ ครอบด้วยสีแดงเหมือนกัน พอหันมาที่ประตูด้านในที่พักแขนสีแดงไล่ระดับเป็นอะไรที่ต้องขอกรี๊ดเลย สวยมาก  หน้าจอมาตรวัดต่างๆ เป็นตัวอักษรสีส้ม บนพื้นหลังสีดำก็พอได้ พวงมาลัยมาพร้อมกับปุ่มอำนวยความสะดวกทั่วไปไม่ว่าจะเป็นปรับระดับเครื่องเสียง รับสาย การพับเบาะหลังเพื่อเป็นพื้นที่เก็บสัมภาระก็ทำได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก ประตูหลังมีโช้คอัพช่วยผ่อนแรง ไม่หนักอย่างที่คิดแถมเปิดได้สูงกว่าศีรษะทำให้ใส่ของได้ง่ายกว่าเดิม

    สรุปว่าหากใครที่กำลังมองหารถที่ใช้งานได้ทั้งในเมืองและนอกเมือง ดีไซน์สปอร์ตและมีความแตกต่างไม่เหมือนใครล่ะก็ อดใจรอกันอีกนิด ปี 2017 นี้ นิสสัน จู๊คจะมีการปล่อยรุ่นไมเนอร์เชนจ์ออกมาน่าจะถูกใจวัยรุ่น หรือ คนที่อินดี้ อย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นก็เตรียมตัวให้ดีก็แล้วกัน จองไม่ทันไม่รู้ด้วย

    Nissan Juke รถรุ่นใหม่ ขวัญใจเด็กแนว
  • รถแต่ละรุ่น แต่ละคันที่แต่ละค่ายผลิตออกมาเพื่อเอาใจคุณลูกค้านั้น ต่างก็มีเป้าหมายและตัวตนของตัวเองแบบชัดเจน บางคนอาจจะเป็นรถครอบครัว บางคันเป็นรถเพื่อการขนส่ง บางคนอาจจะเป็นรถสำหรับวิ่งในเมืองแต่ถ้าหากว่าใครที่กำลังมองหารถสักคนหนึ่งที่อยากได้ทั้งความสวยงาม และ ความรวดเร็ว หรือพูดง่ายว่ารถซิ่ง ต้องมาดูที่ Misubishi Lancer EX เลย น่าจะตอบโจทย์มากที่สุด

    Misubishi Lancer EX สวยถูกใจตั้งแต่แรกเห็น

    Misubishi Lancer EX ต้องบอกเลยว่าเป็นรถอีกรุ่นหนึ่งที่ใครชอบอะไรที่เร็วๆ แรงๆสไตล์สปอร์ รับรองได้เลยว่าต้องถูกใจตั้งแต่แรกเห็นอย่างแน่นอน เริ่มกันที่ภายนอกจะตกแต่งด้วยการเสริมคิ้วโครเมียม ไฟหน้าเป็นไฟโปรเจคเตอร์แบบซีนอน ช่วยให้ความสว่างมากกว่าเดิม กระจกมองข้างสามารถปรับได้ด้วยไฟฟ้า ล้อเป็นอัลลอยขนาด 16 นิ้ว แต่ที่น่าแปลกก็คือสไตล์ของรุ่นนี้ถ้าเป็นผู้ชายส่วนใหญ่มักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าชอบ สวยดี

    Misubishi Lancer EX ด้านในเรียบ หรู ดูดี

    จากด้านนอกเปิดประตูเข้าไปดูด้านในกันบ้าง เริ่มกันที่เบาะจะเป็นเบาะหนังสีดำ นั่งแล้วกำลังดีไม่แข็งมากเกินไป หรือยวบจนลุกไม่ขึ้น เรื่องที่นั่งที่ชอบอีกอย่างหนึ่งคงเป็นด้านหลังที่จะมีที่พักแขนให้ด้วย(สามารถพับเก็บได้)มีช่องว่างใส่ขวดน้ำได้ด้วย อ้อ เบาะหลังยังสามารถพับลงมาเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของด้านหลังด้วยนะ(แยกชิ้นซ้ายขวาด้วย) มาที่ด้านหน้ากันบ้าง บริเวณคอนโซลหน้ารู้สึกสะดุดตากับเส้นโค้งบริเวณตรงกลาง จากที่หาข้อมูลดูคนออกแบบบอกว่ามันจะทำให้ผู้โดยสารู้สึกว่าห้องโดยสารกว้างขึ้น แผงหน้าปัดเป็นแบบวงกลมใหญ่สองวง มีหน้าจอเล็กอยู่ตรงกลาง ส่วนพวงมาลัยมีระบบควบคุมและปุ่มตัวช่วยอยู่ด้วย มองเป็นชิ้นๆอาจจะดูแปลกๆ แต่พอดูรวมๆแล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน

    Misubishi Lancer EX ความแรงต้องมาก่อน

    อย่างที่บอกไปว่า คันนี้รุ่นนี้ความแรงไว้ใจได้เลย เนื่องจากเค้าติดตั้งขุมกำลังไว้ที่เครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร ให้กำลังแรงสุดที่ 139 แรงม้า ทำงาน 6,000 รอบต่อนาที ส่วนเครื่อง 2.0 ลิตรให้พละกำลังสูงสุดที่ 154 แรงม้า สามารถใช้น้ำมันเชื้อเพลิง แก็สโซฮอล์ e10,e20 และ e85 (แล้วแต่รุ่นของรถ) เอาเป็นว่าใครชอบความแรงไม่ผิดหวังแน่นอน

    ระบบที่น่าสนใจของ Misubishi Lancer EX

    ไม่เพียงแต่รูปสวย วิ่งเร็วเท่านั้น เค้ายังติดตั้งระบบต่างๆมาช่วยเหลือด้วยไม่ว่าจะเป็นระบบกันสะเทือน ที่จะช่วยให้รถทรงตัวได้ดีและยึดเกาะถนนเป็นเยี่ยม ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่จะวิเคราะห์การขับรถของเราแล้วช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ทำได้ดีขึ้น และอื่นๆอีกมากมาย ถือว่าเป็นรถอีกคันหนึ่งที่มีดีไซน์สวยงาม ความฉลาด และความแรงได้ดั่งใจต้องการ

    Mitsubishi Lancer EX สวย ซิ่ง ไม่ซ้ำใคร
  • แบรนด์โตโยต้า เป็นอีกยี่ห้อหนึ่งที่ครองใจผู้ขับขี่คนไทยมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋ง หรือ รถกระบะ ออกรุ่นไหนมาก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีเสมอ วันนี้เราจะไปดูกันว่า All New Toyota Vios ตัวใหม่ล่าสุดนี้ เค้ามีของดีอะไรน่าสนใจกันบ้าง

    All New Toyota Vios ดีไซน์ภายนอกเกือบเท่าแคมรี่

    เริ่มกันที่รูปลักษณ์ภายนอกและการดีไซน์ก่อนเลย ต้องบอกเลยว่าเห็นแวบแรกถ้าไม่ดูว่ามีป้าย วีออสติดอยู่ ส่วนตัวคิดว่าเป็นแคมรี่แบบย่อขนาดมาเลย ดีไซน์วีออสรุ่นนี้จุดเด่นอยู่ที่กระจังหน้าสีดำเมทัลลิค เรียบ หรู ดูแพงมาก ส่วนไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบโปรเจคเตอร์รมดำ ไฟส่องสว่างกลางวัน และไฟตัดหมอก เป็นแบบ LED ส่วนด้านหลัง ไฟท้ายก็เป็นแบบ LED เหมือนกัน ที่จับประตูเป็นแบบโครเมียม ล้อจัดมาให้ที่ขนาด 16 นิ้วแนนำเลยว่าสีแดงจัดมาเลย รับรองว่าถูกใจเป็นที่สุด

    ดีไซน์ห้องโดยสาร บ่งบอกถึงความสปอร์ต

    มาที่ด้านในห้องโดยสารกันบ้าง วีออส 2017 ตัวนี้มองเข้าไปนี้ความรู้สึกแรกเป็น ความสปอร์ตที่จัดมาให้อย่างลงตัวเลย เริ่มกันที่คอนโซลหน้าจะตกแต่งด้วยสีแดง โฉบเฉี่ยวดี เบาะหนังเป็นสีดำแดงตัดกัน ส่วนขนาดห้องโดยสารก็กว้างขวางนั่งสบาย นั่งแล้วไม่อึดอัด ทั้งลำตัวและขา อุปกรณ์และฟังก์ชั่นก็ตกแต่งแบบเต็มที่เริ่มจากพวงมาลัยตกแต่งด้วยแถบเปียโนแบล็ค ทำให้จับแล้วกระชับมือแต่ไม่แข็งจนปวดเวลากำพวงมาลัยนานๆ ที่พวงมาลัยมีสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงให้ด้วย ตัวเครื่องเสียงเป็นแบบหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้วเชื่อมต่อไร้สายผ่านบลูทูธได้ แอร์นอกจากความเย็นที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเค้าแล้ว ยังมีระบบอัตโนมัติพร้อมแสดงผลแบบ LCD ด้วย เยี่ยมมาก นอกจากนั้นวีออส ยังทำระบบที่ช่วยในการขับขี่ให้ง่ายขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็น ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ, ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ, ระบบ ECO ที่จะแสดงผลเมื่อขับขี่แบบประหยัด เป็นต้น

    Toyota Vios ราคาแรง แต่ของดีคุ้มราคา

    วีออส 2017 รุ่นนี้หากเป็นรุ่นล่างสุดเปิดตัวมาที่ 609,000 บาท ส่วนรุ่นท็อปสุดจะอยู่ที่ 789,000 บาท หลายคนอาจจะมองว่าราคาที่เปิดตัวมาค่อนข้างแรงเอาเรื่องทีเดียว แต่เอาจริงๆถือว่าวีออสเป็นอีกรุ่นที่ทำออกมาได้คุ้มราคามากกว่า ทั้งในเรื่องของความทนทาน และการบริการหลังการขายที่ทุกคนที่เคยไปใช้บริการต้องบอกว่าดีเยี่ยมทีเดียว เอาเป็นว่าถ้าใครยังไม่รู้ว่าจะซื้อรถรุ่นไหนดี ลองไปขับวีออสดูก่อนได้ที่โชว์รูมรถทุกสาขาก่อนจะตัดสินใจก็ยังไม่สาย

     

     

    All New Toyota Vios ของดีคุ้มราคา
  • All New Mazda 2 ถือว่าเป็นอีกยี่ห้อหนึ่งที่มาแรง แซงทางโค้ง ยอดขายยี่ห้ออื่นไปพอสมควร เนื่องจากหลายคนที่ได้ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของเอง หรือยืมคนอื่นขับต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ขับสนุกมาก” วันนี้เราก็เลยจะหยิบรุ่นนี้มารีวิวกันให้ฟัง

    All New Mazda 2 ดีไซน์โดดเด่นอย่างแตกต่าง

    ก่อนอื่นเลยเรามาดู All New Mazda 2 ในเรื่องของดีไซน์กันก่อนเลยดีกว่า All New Mazda 2 มีทั้งรุ่น 4 ประตู และ แฮชแบ็ค 5 ประตู ด้านหน้ามองดูแล้วบอกตามตรงเหมือนเหยี่ยวที่แสดงถึงความรวดเร็วและโฉบเฉี่ยวอันเป็นเอกลักษณ์ของรุ่นนี้ มาดูกันที่ห้องโดยสารกันบ้าง จุดแรกที่ชอบเลยก็คือเบาะหนังของเค้าเป็นหนังจริงๆ สัมผัสดูจะรู้เลยว่าแตกต่างหนังสีดำตัดกับลายเส้นสีแดง ดูเข้ากันดีทีเดียว แผงควบคุมและการตกแต่งอื่นมองเผินๆเหมือนกับรุ่นพี่อย่าง มาสด้า 3 ที่ย่อส่วนลงมาแต่ทำได้ดีทีเดียว พวงมาลัยอาจจดูเล็กไปสักหน่อย แต่มาพร้อมกับปุ่มควบคุมทุกอย่างเบ็ดเสร็จก็ถือว่า โอเค หน้าปัดเป็นแบบวงกลมตรงกลางแล้วก็ช่องซ้ายขวา อันนี้ชอบเลย เพราะว่าดูตอนขับรถมันทำให้มองได้ง่าย ไม่สับสน ตรงกลางเป็นเครื่องเล่นแบบจอสัมผัส ขยับลงมาเป็นเกียร์(ออโต้) ขยับขึ้นลงได้ง่าย ไม่ติดขัดเวลาที่ต้องการ ด้านข้างซ้ายของเบาะคนขับมีปุ่มปรับเครื่องเสียงด้วย ไม่ต้องเอื้อมไปไกล

    All New Mazda 2 ขุมพลังความแรงไม่แพ้ใคร

    All New Mazda 2 จุดขายของเค้าเลยคงเป็นเรื่องการขับขี่ ที่ต้องบอกว่าได้ขับแล้วจะร้องเลย เนื่องจากรถเซตมาดีมาก สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรได้ภายในเวลาประมาณ 11 วินาที เท่านั้น น่าจะเร็วถูกใจ อีกอย่างก็คือการไต่ระดับความเร็วทำได้อย่างนิ่มนวล ไม่กระตุกจนเราต้องหัวทิ่ม หรือ กระทืบคันเร่งซ้ำให้หงุดหงิดด้วย

    All New Mazda 2 ไม่เปลืองค่าน้ำมัน

    การขับขี่รถอย่างรวดเร็ว สิ่งหนึ่งที่ทำให้หลายคนกังวลคงเป็นเรื่องน้ำมันที่จะซดฮวบๆเลยถ้าขับเร็วมากกเกินไป แต่ถ้าเป็น All New Mazda 2 รุ่นเครื่องดีเซลละก็น่าจะหายห่วงเลย อย่างแรกก็คงเป็นค่าน้ำมันที่ถูกกว่าเบนซินเยอะ อีกทั้งรุ่นนี้เค้าก็ช่วยเราเซฟน้ำมันเหมือนกัน ทางมาสด้าเคลมมากว่า 26.3 กม.ต่อลิตร ก็ถือว่าเยอะอยู่นะ นอกจากนั้นรถคันนี้ยังมีระบบช่วยเหลือและของเล่นสนุกๆอีกเพียบเลย ทั้งเร็วแรง ขับมันส์ ไม่เปลืองค่าน้ำมันแบบนี้ไม่แปลกใจที่ทำไมรถรุ่นนี้ถึงทำยอดขายออกมาได้ดี จนยี่ห้ออื่นต้องมองค้อนขวับเลยทีเดียว

    All New Mazda 2 เร็ว แรง ไว ไม่เปลืองค่าน้ำมัน
  • หากพูดถึงรถยนต์ส่วนบุคคลแบบ 4 ล้อหรือรถเก๋งแล้ว เชื่อว่ายี่ห้อ Honda เป็นอีกแบรนด์ที่อยู่ในใจของใครหลายคนอย่างแน่นอน ยิ่งในเมืองด้วยแล้ว Honda city ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เราเห็นกันเกลื่อนเมืองเลย แสดงถึงความนิยมและคุณภาพได้เป็นอย่างดี ปี 2017 นี้ ทางฮอนด้าเองก็มีการนำเอา All new Honda City รุ่นปี 2017 ออกมาให้ได้ยลโฉมกันแล้ว ต้องบอกว่าถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนไม่มาก แต่ออกมาดีเหลือเกิน

    ระบบไฟ LED เกือบทั้งคัน

    จุดแรกที่ถือว่าเป็นไฮไลต์ของ ฮอนด้า ซิตี้รุ่นนี้เลยก็คือ การเปลี่ยนแปลงเรื่องของกระจังหน้าที่ทำออกมาได้ สวย เรียบหรู โดยเฉพาะกระจังหน้าโครเมียมทำให้รถเด่นตั้งแต่แรกเห็นเลย ตามมาด้วยเรื่องระบบไฟที่ปรับเป็น LED เกือบทั้งคัน ไล่มาตั้งแต่ไฟหน้า ไฟตัดหมอก ไฟส่องเวลากลางวัน ไฟสูงไฟต่ำ เป็น LED หมด ทำให้สว่างมากกว่าเดิม เห็นชัดเจนดีเวลากลางคืน น่าเสียดายว่าไฟท้ายกลับไม่เป็น LED ซะอย่างนั้น อีกจุดหนึ่งที่ชอบเลยต้องเป็นเสาอากาศครีบฉลามอันนี้ชอบมาก

    ห้องโดยสาร อุปกรณ์มาครบและใช้งานได้จริง

    มาถึงห้องโดยสารที่ฮอนด้าเองไม่เคยทำให้เราผิดหวังสักเท่าไร ทั้งเรื่องความสวยงาม และฟังก์ชั่นการใช้งาน รุ่นนี้ก็เช่นกัน ห้องโดยสารถือว่ากว้างดีทีเดียว นั่งด้านหน้าหรือด้านหลัง ไม่รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด ใช้การตกแต่งด้วยโทนสีดำเป็นหลัก อุปกรณ์ในห้องโดยสารเริ่มกันที่เครื่องเสียงใช้ระบบสัมผัสและมีปุ่มกดควบคู่กัน(มีปุ่มกด ดีกว่า) ตัวเครื่องเสียงสามารถควบคุมผ่านบลูทูธ และรองรับระบบแอนดรอย์ และ ไอโอเอส ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ เราสามารถรับสายจากพวงมาลัยได้เลย กล้องมองหลังปรับองศาได้ 3 ระดับ แต่ไม่ยักมีเซนเซอร์วัดระยะทางให้ด้วย(น่าจะมีด้วยนา) แอร์มีปุ่มปรับระดับได้ครั้งละ 1 องศา แต่ถ้าร้อนจัดมากให้รูดลงมาสุดที่คำว่า LO ได้เลย อีกจุดที่ชอบคงเป็นไฟ LED ที่อยู่บนหัวสำหรับอ่านแผนที่ ทำให้มองเห็นได้ชัดเจนฟังก์ชั่นนี้ธรรมดาต้องรถราคาล้านขึ้นนะ

    เครื่องยนต์เดิมๆ ไม่เปลี่ยน

    จุดสำคัญอย่างเครื่องยนต์ รุ่นนี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย เหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์เบนซินแบบ SOHC 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร ก็ถือว่าแรงพอตัวอยู่แล้ว สำหรับคนที่ไม่ได้ขับรถเร็วอะไรมาก แต่น่าเสียดายที่น่าจะทำให้กินน้ำมันได้น้อยกว่านี้สักหน่อย

    สรุปโดยรวมแล้วถือว่าเป็น ฮอนด้า ซิตี้ Minorchange ตัวนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว ดีไซน์ภายนอก เรียบหรู ดูดีมาก ห้องโดยสารก็อัดฟังก์ชั่นการใช้ที่ใช้งานได้จริงมาอย่างเต็มที่(ของบางอย่างต้องรถราคาล้านขึ้นถึงจะมีนะ) ทั้งหมดนี้ราคาเดิม ใครที่ชอบฮอนด้าอยู่แล้ว รุ่นนี้เป็นอีกรุ่นที่ไม่ผิดหวังแน่นอน

     

    All New Honda City เปลี่ยนไม่มาก แต่ออกมาดีมาก
Cars Have Been Watching The News

ติดตามข่าวสารรถยนตร์

NEW

Leave a message

หากเกิดข้อสงสัยสามารถติดต่อสือสารผ่านทางช่องทางนี้ของเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง

  • 2086 Ramkhamhaeng Rd, Khwaeng Hua Mak, Khet Bang Kapi, Krung Thep Maha Nakhon 10240

  • 09-85253215
  • 012345678