“แข่งรถสูตรหนึ่ง” หรือ ”ฟอร์มูล่าวัน” มีรากฐานมาจากการแข่งขันชิงแชมป์ยุโรปปี 1920 และ 1930 โดยพื้นฐานของสูตรหนึ่งก็คือกฎที่กำหนดโดย Fédération Internationale de l’Automobile (FIA) ที่เริ่มต้นใช้ในปี 1946 ซึ่งทำให้เกิดการแข่งขันชิงแชมป์โลกในปี 1950 ประวัติศาสตร์ของการแข่งชนิดนี้สอดคล้องกับวิวัฒนาการของกฎระเบียบทางเทคนิคในอดีตจนถึงปัจจุบัน นอกเหนือจากการแข่งขันชิงแชมป์โลกแล้วยังมีการแข่งขันฟอร์มูล่าวันที่ไม่ใช่แชมป์ที่ได้รับความนิยมไปทั่ว เนื่องจากครั้งสุดท้ายที่จัดขึ้นในปี 1983 เนื่องจากต้นทุนการแข่งขันที่สูงขึ้น แต่ยังคงมีการแข่งระดับประเทศอยู่ในแอฟริกาใต้และสหราชอาณาจักรในยุค 60 และยุค 70
สูตรหนึ่งถูกกำหนดขึ้นครั้งแรกโดยคณะกรรมาธิการกีฬาระหว่างประเทศ (CSI) ในปี 1946 โดยมีการกำหนดสูตรใหม่ที่ใช้ในระดับนานาชาติ นี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า Formula A, Formula I หรือ Formula 1 โดยมีชื่อว่า “Voiturette” ในขณะที่ 500c ได้รับการยกให้เป็นสูตร 3 ในปี 1950 แล้วจึงไม่เคยมีชื่อว่า “Formula C” ดังนั้นสูตรนานาชาติทั้งสามสูตรจึงเป็นเรียกอย่างเป็นทางการว่า “สูตร” ได้แก่สูตร 1 สูตร 2 และสูตร 3 ในตอนแรกสูตรส่วนใหญ่กำหนดขึ้นก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง กำหนดโดยความจุของเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นกฎระเบียบที่จะนำมาซึ่งความสมดุลใหม่ระหว่างรถยนต์ที่มีซูเปอร์ชาร์จ และรถยนต์ปกติ โดยได้มีการนำเครื่องยนต์ขนาด 4.5 ลิตร Grand Prix ไปแข่งกับ 1.5 ลิตรซูปเปอร์ชาร์จ ‘voiturettes’ ในขณะที่รถเครื่องยนต์ 3 ลิตรถูกแบนไม่ให้ใช้ในการแข่ง Grand Prix การแข่งขันครั้งแรกภายใต้ระเบียบใหม่คืองานแข่ง 1946 Turin Grand Prix จัดขึ้นวันที่ 1 กันยายน โดยมีผู้ชนะการแข่งโดย Achille Varzi จาก Alfa Romeo ด้วยรถยนต์รุ่น 158 Alfetta
ในช่วงต้นปีมีการแข่งขันเกิดขึ้นอีกประมาณ 20 รายการจัดขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิถึงต้นฤดูใบไม้ร่วง (ฤดูใบไม้ร่วง) ในยุโรป แม้ว่าจะไม่ใช่ทั้งหมดของการแข่งที่ถือว่าเป็นที่น่าจดจำ แต่รถแข่งส่วนใหญ่ที่นำมาแข่งนั้นบินตรงมาจากอิตาลีโดยเฉพาะจากโรงงาน Alfa Romeo ไม่นานวงการรถสูตรหนึ่งก็แข่งกันพัฒนาเครื่องยนต์ที่เร็วและแรงแบบไม่มีขีดจำกัดทำให้ในปี 1994 ได้มาตระหนักถึงความปลอดภัยกันมากขึ้นหลังจากที่มีนักแข่งเสียชีวิตในสนามระหว่างการขับทดสอบในปี 1986 นอกจากนี้ก็ยังมีการรายงานอุบัติเหตุที่น่าหวาดเสียวและเสี่ยงตายอยู่เสมอ ทำให้ผู้พัฒนารถยนต์และกลุ่มที่ดูแลกฎระเบียบต้องหันมาประชุมกันโดยได้กำหนดข้อจำกัดต่าง ๆ สำหรับการส้างรถยนต์ให้อยู่ในความปลอดภัย เราจึงไม่ค่อยเห็นรถยนต์ที่วิ่งเร็วเกินกว่าเดิมมากนักแม้ว่าเวลาจะผ่านไปเป็นสิบปี